ไอซีทีเชิญ"หมอดาวเทียม"ถกแนวรักษาวงโคจร 30 พ.ค.(โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 พฤษภาคม 2554 16:12 น.)
กระทรวงไอซีทีดึงหน่วยงานและนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านดาวเทียม รับฟังแนวทางรักษาสิทธิวงโคจรดาวเทียมที่ 120 องศาตะวันออก หลัง กสท เสนอมา 2 แนวทาง ส่วนโครงการส่งไทยคม 6 ให้คลังพิจารณา ขณะที่สัดส่วนถือหุ้นของชินคอร์ปส่งให้อัยการสูงสุดชี้ขาด
นางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวถึงการรักษาสิทธิวงโคจรดาวเทียมที่ตำแหน่ง 120 องศาตะวันออกว่า ในวันที่ 30 พ.ค.ที่จะถึงนี้ ทางกระทรวงไอซีทีจะเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านดาวเทียมทั้งจากมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีมหานคร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กระทรวงกลาโหม และตัวแทนจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ร่วมรับฟังการนำเสนอแนวทางการรักษาสิทธิวงโคจรดาวเทียมที่ กสท โทรคมนาคม ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาศึกษาแนวทางมาแล้ว เพื่อช่วยกันหาทางออกที่ดีที่สุด
สำหรับแนวทางรักษาสิทธิวงโคจรดาวเทียมที่ทาง กสท เสนอมาให้ทางกระทรวงไอซีทีพิจารณา 2 แนวทาง คือ 1.เช่าดาวเทียมต่างประเทศที่อยู่มีอยู่ในวงโคจรลากมาไว้ที่ตำแหน่ง 120 องศาตะวันออก ราย ละเอียดอาจจะต้องประสานไปยังสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ไอทียู) ว่า ในวงโคจรที่ใกล้เคียงกับ 120 องศาตะวันออก มีดาวเทียมดวงไหนที่จะสามารถลากมาอยู่ในตำแหน่งนี้ได้เพื่อรักษาสิทธิ์ไป ก่อน จากนั้นค่อยพิจารณาการยิงดาวเทียมดวงใหม่ 2.เจรจากับผู้ผลิตดาวเทียมและขอซื้อดาวเทียมที่สร้างเสร็จแล้ว ซึ่งพร้อมจัดส่งได้ทันที แต่ แนวทางนี้มีผลเสียคือ จะไม่ได้สเปกดาวเทียมตามที่ต้องการ ซึ่งแนวทางดังกล่าวต้องให้ไอซีทีเป็นผู้พิจารณาและนำเข้าที่ประชุมคณะ รัฐมนตรี (ครม.)
ส่วนปัญหาดาวเทียมไทยคมที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้ดำเนินการตามมติคณะกรรมการมาตรา 22 แห่งพ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนร่วมการงานหรือดำเนินในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุน) ที่ให้กระทรวงไอซีทีเจรจากับบริษัทไทยคมนั้น นางจีราวรรณกล่าวว่า การจัดส่งดาวเทียมไทยคม 6 เพื่อเป็นดาวเทียมสำรองไทยคม 5 นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีทีได้เซ็นอนุมัติแล้วโดยจะมีการจัดส่งไทยคม6 ขึ้นสู่วงโคจรในปี 2556
ส่วนเรื่องเงินประกันที่เกิดจากความเสียหายของไทยคม 3 กระทรวงไอซีทีได้ส่งให้กระทรวงการคลังพิจารณา สำหรับสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น ที่ลดสัดส่วนการถือหุ้นในไทยคมจาก 51% เหลือ 40% และคณะกรรมการมาตรา 22 มีมติให้กลับไปถือหุ้นในสัดส่วนเดิมนั้น กระทรวงไอซีทีได้ส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณาชี้ขาด
“ทุกอย่างเราต้องทำตามขั้นตอน เพื่อใม่ให้ขัดต่อกฎหมาย” ปลัดกระทรวงไอซีทีกล่าว
เครดิตจาก
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9540000064435 จบข่าวครับ