ชื่อ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
05, พฤษภาคม 2024, 09:51:39 pm
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: :: Thontกล่องแอนดรอย livetv55 star4k hd2live iptvso เซิรฟskynet/500 ::

dvb

+  บอร์ดโบราณ ดาวเทียม - HD player - CCTV
|-+  อุปกรณ์เครื่องรับดาวเทียมทีวีดิจิตอล
| |-+  ถามตอบปัญหาดาวเทียมและทีวีดิจิตอล
| | |-+  พรีเมียร์ลีก:เกมเปลี่ยน(2) บอลฝั่ง CTH แต่เล่นยาก
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: พรีเมียร์ลีก:เกมเปลี่ยน(2) บอลฝั่ง CTH แต่เล่นยาก  (อ่าน 9746 ครั้ง)
msdos
Special Member
*
กระทู้: 16


อีเมล์
« เมื่อ: 25, พฤศจิกายน 2012, 08:43:18 am »

(ยกสองมือทำขนาดสิงโต)ใหญ่กว่านี้เราเลี้ยงไม่ไหว

พร้อมกับเสียงหัวเราะร่วนของ"ผู้แพ้"วันนี้ ซึ่งอาจจะแฝงนัยยะว่าแกรมมี่กำลังวางแผนจะพลิกเกมมาเป็น"ผู้ชนะ"ใน Platform War ของธุรกิจโทรทัศน์ในวันข้างหน้าได้ไม่ยาก
เมื่อสถานการณ์ของธุรกิจนี้กำลังอยู่ในภาวะ"เกมเปลี่ยน"ทุกวัน ไม่มีใครจะเป็น"ผู้ชนะ"ตลอดกาลและไม่มีใคร"ผูกขาด"ธุรกิจนี้ได้อีกต่อไป

"ทรูวิชั่นส์"จะไม่ใช่"เคเบิลทีวีระดับชาติ"ในระบบบอกรับสมาชิกรายใหญ่รายเดียวอีกต่อไป เมื่อคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
 กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติกำลังจะออกใบอนุญาติผู้ให้บริการ"โครงข่าย"โทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกที่ไม่จำกัดจำนวนอีกต่อไป

"ฟรีทีวี 6 ช่อง"ที่เป็นทีวีภาคพื้นดินแบบอนาล็อกจะไม่ใช่"ช่องโทรทัศน์หลัก"ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เมื่อจำนวนครัวเรือนไทยที่ใช้"เสาอากาศ"ดูทีวีได้ 6 ช่อง
ได้เหลือน้อยลงแค่ประมาณ 36 % ในขณะที่ครัวเรือนที่ติดตั้งจานดาวเทียมและเคเบิลทีวีทุกระบบที่สามารถดูทีวีได้มากกว่า 200 ช่องมีสัดส่วนมากถึง 64 %
รวมทั้งการประมูลดิจิทัลทีวีที่เป็นระบบทีวีภาคพื้นดินแบบดิจิทัลอีก 24 ช่องธุรกิจจะเกิดขึ้นในไตรมาสที่ 2 ปี 2556 และอาจจะมากถึง 50 ช่องภายใน 5 ปีข้างหน้า

"เคเบิลทีวีท้องถิ่น"ที่เดิมเป็นแค่ผู้เล่นในระดับภูธรเฉพาะท้องถิ่นกำลังจะกลายเป็น"ยักษ์ใหญ่เคเบิลทีวีระดับชาติ"ที่มีบริษัท เคเบิลไทยโฮลดิ้ง จำกัด( CTH )
 เจ้าของลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในอีก 3 ปีข้างหน้าเป็นแกนในการ"รวมเคเบิลทีวีท้องถิ่นให้เป็น" One Network , One Platform
 ตามแผนธุรกิจ 5 ปีของการก่อตั้ง CTH ที่เริ่มต้นจากผู้ประกอบการเคเบิลท้องถิ่นกว่า 150 แห่งถือหุ้นใหญ่แม้ว่าต่อมาจะเหลือ 30 %

ชัยชนะของ CTH ในการประมูลลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของ"วิชัย ทองแตง"ผู้ถือหุ้นใหญ่ที่บอกว่า
"เครียดที่สุดตอนตัดสินใจเสนอตัวเลขรอบสองที่สูงมากกว่าเดิมเยอะเพื่อให้ห่างจากคู่แข่งมากกว่า 30 % ซึ่งไม่ได้ใช้การคำนวณตัวเลขอะไรมากนัก
แต่ใช้"กัสท์ฟิลลิ่ง"ของนักธุรกิจที่มีสไตล์กล้าได้กล้าเสีย มุ่งมั่นจะลงทุนทำธุรกิจโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกผ่านเคเบิลทีวีท้องถิ่นให้ผงาดขึ้นมาแข่งกับทรูวิชั่นส์ให้ได้ในเวลาอันรวดเร็ว

ภารกิจของ CTH นับจากนี้จะต้องทำงานแข่งกับเวลา เพื่อสร้างและลงทุนในการเป็นเจ้าของ"แพลทฟอร์ม"จริงๆในการกำหนด"เกม"ให้ได้จริงๆในแผนระยะยาว
มิเช่นนั้น CTH จะไม่มีเงินจ่าย"ค่าลิขสิทธิ์"กว่า 10,000 ล้านบาทในช่วง 3 ปีข้างหน้าที่จะต้องจ่ายให้กับ EPL ถือเป็น"โจทย์หิน-การบ้านยาก"มากๆ
เมื่อเทียบกับระยะเวลาการเริ่มฤดูกาลใหม่ของฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในเดือนพ.ค.ปี 2556

โดยความเป็นจริงแล้ว สถานะปัจจุบันของ CTH ยังเป็นเพียงแค่"บริษัทขายส่งคอนเทนท์"ที่มีเคเบิลทีวีท้องถิ่นประมาณ 150 รายถือหุ้นประมาณ 30 %
 แต่ CTH ยังไม่ได้มีสิทธิ์หรือมีสมาชิกเคเบิลทีวีท้องถิ่นเป็นของตัวเอง แม้แต่"หนึ่งสมาชิก"

ผู้บริหาร CTH มักอ้างถึงการมีฐานสมาชิกเคเบิลทีวีท้องถิ่น 3.5 ล้านครัวเรือน น่าจะเป็นเพียง"ตัวเลขอ้างอิง"ของคนดู"ช่องรายการจากCTH"
ผ่านทางเคเบิลทีวีท้องถิ่นประมาณ 500 สถานีที่ CTH ไม่ได้เป็นเจ้าของแต่อย่างใดและการวางเป้าหมายจะเพิ่มขึ้นในอีก 5 ปีข้างหน้า
เป็น 7 ล้านครัวเรือนก็เป็น Mission Impossible ที่เป็นโจทย์ยากมากๆ เพราะตัวเลขสมาชิกเคเบิลทีวีหยุดนิ่งและถดถอยมาในช่วง 2-3 ปีที่จานดาวเทียมเฟื่องฟู

แต่อาจจะเป็นไปได้ ถ้า CTH มีการลงทุนจริง 20,000 ล้านเพื่อเปลี่ยน"โครงข่าย"เคเบิลทีวีท้องถิ่น 500 สถานีให้โครงข่ายไฟเบอร์ออฟติค
ยกระดับเป็น One Network , One Platform ตามแผนธุรกิจ ทำให้เคเบิลท้องถิ่นจากระบบโครงข่ายอนาล็อกที่เป็นข้อจำกัดจำนวนช่องออกอากาศได้ไม่เกิน
80ช่องให้เป็นโครงการ Digital Cable TV ที่มีช่องเพิ่มเป็น 150-200 ช่องได้และยังได้ธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์เข้าถึงบ้านสมาชิกอีก

CTH คิดแผนธุรกิจนี้มานานแล้ว แต่ยังไม่ได้ลงมือทำมากนัก แต่ทรูวิชั่นส์อยู่ในธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์มาเกินกว่า 10 ปี
มีการลงทุนวางสายไฟเบอร์ออฟติในกรุงเทพและปริมณฑลเพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ รวมทั้งในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา
ได้เข้าไปลงทุนวางสายไฟเบอร์ออฟติคใน 30 กว่าจังหวัดที่มีฐานกำลังซื้อสูงที่สามารถให้บริการแบบเคเบิลทีวีและอินเทอร์เน็ต
ธุรกิจแบบทริปเปิลเพลย์ที่ผู้บริหาร CTH พูดย้ำหลายครั้งว่าเป็นแผนงานหลักในอนาคต แต่ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด

กลุ่มทรูถือเป็นยุทธศาสตร์ที่มีการหลอมรวม Convergence เนื้อหาและบริการมาหลายปีแล้ว ระหว่างสมาชิกทรูวิชั่นให้บริการเคเบิลทีวี,
ดูทีวีผ่านอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์,ดูทีวีผ่านมือถือทรูมูฟและก้าวไปไกลกว่าผู้ประกอบการมือถือรายอื่นๆกับโครงข่าย CDMA
 ที่ยกระดับบริการ 3G ไปล่วงหน้าหลังเข้าไปเช่าใช้จากบริษัท กสท. จำกัด(มหาชน) ก่อนจะประมูลคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์

ข้อต่อสำคัญของ CTH เพื่อก้าวกระโดดเข้ามาให้บริการทริปเปิลเพลย์ให้เป็นแพลทฟอร์มหลักผ่านโครงข่ายเคเบิลทีวีท้องถิ่น
ที่มีฐานสมาชิก 2.4 ล้านครัวเรือน (อ้างอิงจากผลสำรวจของเนลสัน) ด่านหินมากๆของ CTH จะทำอย่างไรไม่ให้"เจ้าของเคเบิลทีวีท้องถิ่น
"เกิดความรู้สึกว่าพวกเขากำลังสูญเสีย"อธิปไตย"บนโครงข่ายใหม่ที่ CTH เสนอจะร่วมลงทุนหรือลงทุนให้

พวกเขาหวงแหนธุรกิจนี้อย่างยิ่งเพราะได้ลงทุนและบากบั่นต่อสู้อุปสรรคมานานกว่า 20 ปีจนเติบใหญ่มาขนาดนี้ ยากจะปล่อยให้ CTH
เข้าไปถือหุ้นใหญ่หรือกลายเป็นเจ้าของโครงข่ายหรือเปลี่ยนสถานะของเคเบิลท้องถิ่นกลายเป็น"ลูกข่าย"หรือรับ"แฟรนไชส์"
แบรนด์ช่องรายการจาก CTH ยกเว้นกรณีฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่มีความน่าสนใจมากกว่าช่องรายการ 16 ช่องที่ CTH เคยเสนอขายให้เคเบิลท้องถิ่นที่เสียงตอบรับน้อยมาก

ช่องทางรายได้ของ CTH ไม่น่าจะมาจากการขายเหมา"ช่องพรีเมียร์ลีก"ให้เคเบิลทีวีท้องถิ่นที่คงน้อยเกินไป แต่น่าจะมาจากการเจรจาเพื่อขอ
"ส่วนแบ่ง"รายได้จากการ Top Up ราคาค่าสมาชิกเคเบิลทีวีท้องถิ่น 300 บาทต่อเดือน หากสมาชิกเคเบิลทีวีท้องถิ่นต้องการช่องรายการพรีเมียร์ลีก 8 ช่อง

สมมุติ CTH เสนอ Top Up ค่าสมาชิกอีกรายละ 200 บาทต่อเดือน แล้วลงทุนเปลี่ยน"กล่องรับสัญญาณ"ให้เคเบิลท้องถิ่นได้สัก 1 ล้านบ้าน
 เท่ากับว่าจะมีรายได้เดือนละ 200 ล้านบาท หากแบ่ง 50/50 เท่ากับว่า CTH จะมีรายได้จากค่าสมาชิกเดือนละ 100 ล้านบาท
 แต่การเสนอลงทุนกล่องรับสัญญาณแบบดิจิทัลเคเบิลน่าจะเป็น"ต้นทุน"ของ CTH ไม่ใช่เคเบิลทีวีท้องถิ่นที่ไม่มีทางยอมลงทุนเอง

สมาชิกของทรูวิชั่นที่ส่วนใหญ่เป็นระบบจาน KU-Band น่าจะเป็น"เป้าหมายสำคัญ"ที่ CTH จะต้องหาทางให้เปลี่ยนมาเป็นสมาชิกของ CTH
ในระบบ KU-Band น่าจะง่ายกว่าให้บอกรับสมาชิกแบบสายเคเบิลที่ทรูวิชั่นส์ล้มเหลวมาแล้ว

เท่าที่มองเห็นช่องทางหรือแพลทฟอร์มที่มีอยู่ในปัจจุบันน่าจะเหลือแค่"จานเหลือง"ที่ใช้ระบบ KU-Band เหมือนกับทรูวิชั่นส์ ขอคาดเดาว่า
CTH น่าจะกำลังเจรจากับบริษัท DTV ที่เป็นบริษัทลูกของบริษัทไทยคมเจ้าของดาวเทียม เพื่อขอ Top Up ช่องรายการฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
เข้าไปอีก 8 ช่องเพื่อเสนอบริการแบบ Pay Per View ให้ลูกค้าจานดาวเทียม DTV ที่มีอยู่มากกว่า 1 ล้านจาน

Business Model สูตรนี้น่าจะ WIN-WIN ทุกฝ่ายและชีวิตของCTH ง่ายกว่าการหาทางเข้าไปสวมโครงข่ายของเคเบิลทีวีท้องถิ่น
ที่มีผู้ประกอบการกว่า 500 สถานี เพราะ DTV คุยกับเจ้าของรายเดียวคือไทยคมที่มีกลุ่มเทมาเส็กถือหุ้นใหญ่ที่มองรายได้เป็นหลักและ CTH ก็ไม่ได้เข้ามาเป็นเจ้าของแพลทฟอร์ม DTV

CTH มีแพลทฟอร์มที่ไม่ต้องลงทุนสร้างใหม่สำหรับขายช่องพรีเมียร์ลีกได้ทันที ขึ้นอยู่กับข้อเสนอและราคาค่าสมาชิกหรือแบบ Pay Per View
 ช่องพรีเมียร์ลีกว่าจูงใจให้เลิกเป็นสมาชิกทรูวิชั่นส์หรือไม่

DTV มี"ช่องพรีเมียร์ลีก"ที่เป็นคอนเทนท์เกรดเอมาให้ลูกค้าเพิ่มจากเดิมที่ส่วนใหญ่เป็นช่องทีวีดาวเทียมที่เป็น Free to Air ไม่ใช่ Exclusive Content
แล้ว DTV ยังได้ส่วนแบ่งรายได้มาชดเชยกำไรจากค่าจานดาวเทียมที่แข่งขันกันจนเหลือน้อยนิด

THAICOM มีลูกค้ารายใหญ่ CTH มาเช่าทรานสปอนเดอร์ดาวเทียมไทยคมอีกไม่น้อยกว่า 8 ช่องพรีเมียร์ลีกและในอนาคตทาง CTH
น่าจะเพิ่มช่องรายการอีก จากเดิมทรูวิชั่นเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดในระบบ KU-Band

AIS น่าจะได้ช่องรายการพรีเมียร์ลีกให้กับลูกค้าโทรศัพท์มือถือในระบบ 3 G ที่สามารถคิดค่าบริการจากลูกค้าได้
เช่นเดียวกับโทรศัพท์มือถือทรูมูฟที่มีคอนเทนท์จากทรูวิชั่นส์ดูได้บนมือถือ
ช่องทางรายได้ของ CTH จากลิขสิทธิ์บอลพรีเมียร์ลีก 2-3 ช่องทางนี้ น่าจะเป็นช่องทางหลักที่เป็นกอบเป็นกำเป็นฐานรายได้ค่าสมาชิก
ที่มีเสถียรภาพพอจะคืนทุนได้บ้างในช่วง 3 ปีข้างหน้า นอกเหนือจากรายได้โฆษณาในช่องฟรีทีวี,ค่าลิขสิทธิ์นำไปเผยแพร่ต่อในช่องทางต่างๆที่ไม่ง่ายจะจัดเก็บจากรายย่อยๆ

สตอรี่ใหม่ของ CTH ในการก้าวพ้นจากบริษัทขายคอนเทนท์แบบพื้นๆในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาที่ขาดทุนมาโดยตลอด น่าจะทำให้เพิ่ม
"มูลค่า"ราคาหุ้นที่ยังเหลืออีก 20 % ที่เคยจะขายให้แกรมมี่ในราคาพาร์จะมีราคาเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า และสร้างโอกาสระดมเงินทุน
จากตลาดหุ้นได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เพื่อมาจ่ายค่าลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกก้อนแรกที่ไม่น่าจะต่ำกว่า 3,000-4,000 ล้านบาท
 สตอรี่นี้ไม่น่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับ"วิชัย ทองแตง"ที่เป็นเซียนตลาดหุ้นขั้นเทพอยู่แล้ว

ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/opinion/re-think/20121125/479509/พรีเมียร์ลีก:เกมเปลี่ยน(2)-บอลฝั่ง-CTH-แต่เล่นยาก.html
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
newsone
Special Member
*
กระทู้: 3,405


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: 25, พฤศจิกายน 2012, 09:39:55 am »

  ไม่ง่าย เดี๋ยวก็รู้  อีก เดือนกว่าๆ  ก็ ปีใหม่แล้ว
  เดี๋ยวก็รู้ว่า  CTH กับไทยรัฐ จะเจ๊งไหม
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

KTC
Special Member
*
กระทู้: 271


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: 25, พฤศจิกายน 2012, 10:02:27 am »

  ไม่ง่าย เดี๋ยวก็รู้  อีก เดือนกว่าๆ  ก็ ปีใหม่แล้ว
  เดี๋ยวก็รู้ว่า  CTH กับไทยรัฐ จะเจ๊งไหม

เจ๊ง.....ปิดประตูเลยครับ
อย่างมากก็แค่......ขาดทุน
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
newsone
Special Member
*
กระทู้: 3,405


อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: 25, พฤศจิกายน 2012, 10:11:17 am »

  ขอบคุณครับ

  ไม่ใช่ว่าผมจะแช่งให้ CTH ขาดทุนน่ะ

แต่ ประมูล แพงเกินไปครับ  เกือบ หมื่นล้าน

  ยังต้องลงทุน อีก  เป็น หมื่นล้าน

  อย่าลืมว่า ม้นมี  ค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก  ดอกเบี้ยอีก แล้วพนักงาน  สารพัด   

   ผมกลัวว่า ปีแรก อาจเก็บถูกกว่า ทรู นิดหน่อย พอปี 2 เริ่มรู้ว่า ไปไม่ไหว  อาจขึ้นราคาได้


   ปัญหา ที่สำคัญ ประมูลแพง เกินไป กับ เวลาแค่  3 ปี

  แล้วตาม ข่าว  ปัจจุบัน  CTH  ที่ส่ง รายการให้เคเบิ้ลท้องถิ่น  ทั้งๆที่ต้นทุนไม่เยอะ  ยังขาดทุนเลย   
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

KTC
Special Member
*
กระทู้: 271


อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: 25, พฤศจิกายน 2012, 10:30:06 am »

  ขอบคุณครับ

  ไม่ใช่ว่าผมจะแช่งให้ CTH ขาดทุนน่ะ

แต่ ประมูล แพงเกินไปครับ  เกือบ หมื่นล้าน

  ยังต้องลงทุน อีก  เป็น หมื่นล้าน

  อย่าลืมว่า ม้นมี  ค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก  ดอกเบี้ยอีก แล้วพนักงาน  สารพัด   

   ผมกลัวว่า ปีแรก อาจเก็บถูกกว่า ทรู นิดหน่อย พอปี 2 เริ่มรู้ว่า ไปไม่ไหว  อาจขึ้นราคาได้


   ปัญหา ที่สำคัญ ประมูลแพง เกินไป กับ เวลาแค่  3 ปี

  แล้วตาม ข่าว  ปัจจุบัน  CTH  ที่ส่ง รายการให้เคเบิ้ลท้องถิ่น  ทั้งๆที่ต้นทุนไม่เยอะ  ยังขาดทุนเลย   

ราคานี้ดูๆแล้ว เป็นเหมือนกันทั่วโลกครับ EPL โก่งค่าตัว  ต้องรอดูกันต่อไป  แต่ฉายาพ่อมดตลาดหุ้นของเมืองไทย
ฉายานี้ไม่ได้มากันง่าย  เอาเศษหุ้นมาทำเงินได้  เรื่องการลงทุนผมว่า CTH น่าจะมีแผนในหัวอยู่แล้ว
แต่ช่วงนี้มันยังไม่ถึงเวลาที่จะขายออก  ก็ถือไว้ก่อน  รอราคาสวยๆก่อนมั้งครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
noomsaren
Full Member
***
กระทู้: 224


อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: 25, พฤศจิกายน 2012, 10:51:14 am »

มาปูเสื่อรอดูอยู่เหมือนกันครับ เราก็วิเคราะห์กันไปครับ แต่คนที่เขาเสียเงินมาแล้ว เขาคงไม่ทำให้ตัวเองขาดทุนหรอกครับ รอกันต่อไป ไม่ไหวก็หันไปคบพี่น้องอาเซียนก็แล้วกันครับ เราก้าวสู่อาเซียนก่อนใครเลยครับ เรื่องนี้
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
click
Special Member
*
กระทู้: 3,733



อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: 25, พฤศจิกายน 2012, 12:40:51 pm »

มองตามจริง....ผมว่าเจ๊งแน่นอน ไม่นับแต่งตัวเลข ตามฐานลูกค้า.....กลัวแต่โกหกสีขาว นายทุนมันทำได้ทั้งนั้น...รอดูต่อดีกว่า..555
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

TheGame
Special Member
*
กระทู้: 323


อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: 25, พฤศจิกายน 2012, 01:00:24 pm »

พรีเมียร์ลีก ไม่ใช่คำตอบของทุกสิ่ง

อย่างว่า ธุระกิจ คือการลงทุน การเสี่ยง กล้าได้กล้าเสีย นี่คือบทเรียนครั้งใหญ่ของ CTH

ขนาดทุยประมูลมาน้อยกว่าเยอะ  ในสามฤดูกาล ยังขาดทุนเลย
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
NeoXeoN
Full Member
***
กระทู้: 168


อีเมล์
« ตอบ #8 เมื่อ: 25, พฤศจิกายน 2012, 01:27:32 pm »

บริษัทขาดทุนอยู่แล้วตามบัญชี (อาจจะกำไรนิดหน่อย เอาไว้หักขาดทุนสะสม)
แต่จริงๆจะขาดทุนไหมก็อีกเรื่อง

ดูตัวเลขเดือนละหลักร้อยล้าน กับเงินลงทุน ก็เหนื่อยนะ
รวมโฆษณาก็ยังไม่รู้ว่าจะออกหน้าไหน

ขอให้รายเดือนไม่แพงอย่างที่โฆษณาไว้แล้วกัน
แล้วก็ขอให้รักษามาตราฐาน ไม่ใช่ดูบอลครึ่งนึง หดจอแล้วโฆษณาร่วม 15 นาที
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
lungdaeng
Newbie
*
กระทู้: 99


อีเมล์
« ตอบ #9 เมื่อ: 25, พฤศจิกายน 2012, 01:48:55 pm »

ธุรกิจเจ๊งครับ แต่มีกำไรจากหุ้น สูตรสำเร็จของทักษิณ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
HD
Special Member
*
กระทู้: 1,538


อีเมล์
« ตอบ #10 เมื่อ: 25, พฤศจิกายน 2012, 04:02:24 pm »

มองตามจริง....ผมว่าเจ๊งแน่นอน ไม่นับแต่งตัวเลข ตามฐานลูกค้า.....กลัวแต่โกหกสีขาว นายทุนมันทำได้ทั้งนั้น...รอดูต่อดีกว่า..555
เจ็งตั้งแต่อยู่ในมุ้งแล้ว กระแสเงินสดติดลบ -
จ่ายทั้งค่าสิขสิทธิ์
ค่าภาษีหักณ ที่จ่าย 15% ต้องออกให้
ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม  7% จ่ายไปขอคืน นำมาหักกับภาษีขาย ที่รายได้ในอนาคต
บวกลบ กำไรขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน กรณีในอนาคตค่าเงินผันผวน
10,000 ล้านบาท
xx,000 ล้านบาท ค่าลงทุนระบบต่างๆ
ไม่รู้ตอนประมูลมี มีฝ่ายทำ cash flow และ budget หรือ เปล่า
แต่เครือ cp มีแน่ระบบบัญชีน่าจะแข็งแกร่งกว่า เพราะทำธุรกิจมานาน
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

suchart
Special Member
*
กระทู้: 338


อีเมล์
« ตอบ #11 เมื่อ: 25, พฤศจิกายน 2012, 04:03:49 pm »

 ประมูลมาในราคาแพงบ้าเลือด พูดได้คำเดียว เจ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ชัวร์
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
pong333
Special Member
*
กระทู้: 256


อีเมล์
« ตอบ #12 เมื่อ: 25, พฤศจิกายน 2012, 07:13:29 pm »

คิดกันทำมัย..ให้ปวดหัว..ทั้งๆที่ตัวเองมีน่าที่ทำได้แค่ดู...(ดูแบบถูกต้องกับแอบดู)..5555
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
HD
Special Member
*
กระทู้: 1,538


อีเมล์
« ตอบ #13 เมื่อ: 25, พฤศจิกายน 2012, 07:40:23 pm »

เปรียบเทียบงบกำไรขาดทุน(โดยย่อ)
บริษัท เคเบิล ไทย โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)
                                                                          จำนวนเงิน (บาท)
< -->
                                     ปีงบ 2554                   ปีงบ 2553   
รายได้หลัก                                   120,760,820    98,650,313
รวมรายได้                                   121,472,410    99,178,573   
ต้นทุนขาย                                   159,862,754    105,241,625   
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร             10,287,453       9,236,681   
ดอกเบี้ยจ่าย                                         998,031      1,349,465   
ภาษีเงินได้                                                  0                       0
รวมรายจ่าย                                   186,584,565    118,648,067   
กำไร(ขาดทุน)สุทธิ                           (66,110,185)    (20,818,959)   
กำไรต่อหุ้น (บาท)                                        (5)                 (5)
 
 
 
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

HD
Special Member
*
กระทู้: 1,538


อีเมล์
« ตอบ #14 เมื่อ: 25, พฤศจิกายน 2012, 07:52:02 pm »

บริษัท ทรู วิชั่นส์ เคเบิ้ล จำกัด (มหาชน)
เปรียบเทียบงบกำไรขาดทุน(โดยย่อ)
จำนวนเงิน (บาท)
                                           ปีงบ 2554        ปีงบ 2553         ปีงบ 2552 
รายได้หลัก                                3,337,042,683  2,452,704,200  1,741,075,371 
รวมรายได้                                 4,880,019,419  4,092,333,980  1,803,353,769 
ต้นทุนขาย                                 2,959,980,925  2,257,731,885  1,756,141,395 
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร       1,592,911,964  1,528,976,677  191,593,639 
ดอกเบี้ยจ่าย                                         0                 5,833,378  30,186,577 
ภาษีเงินได้                                    130,607,883               0              0 
<  รวมรายจ่าย                           4,631,186,798  3,944,256,070  1,949,980,678  --> 
กำไร(ขาดทุน)สุทธิ                         118,224,738     142,244,532  (176,813,486) 
 
ที่มา dbd.co.th

ดูจากงบฯการเงิน รายได้ทรูล่าสุด 3,300 ล้าน
ถ้า CTH จ่ายค่าลิขสิทธิ์ไป 10,000 ล้าน/3 ปี = ต้นทุนค่าสิทธิ์อย่างเดียวปาเข้าไป 3,333 ล้านแล้ว
อย่างนี้ไม่เรียกว่าเจ็ง ไม่รู้จะเรียกอะไรแล้ว ??
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

TEE007
Special Member
*
กระทู้: 282


อีเมล์
« ตอบ #15 เมื่อ: 25, พฤศจิกายน 2012, 08:15:41 pm »

คิดกันทำมัย..ให้ปวดหัว..ทั้งๆที่ตัวเองมีน่าที่ทำได้แค่ดู...(ดูแบบถูกต้องกับแอบดู)..5555
+1
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
pong333
Special Member
*
กระทู้: 256


อีเมล์
« ตอบ #16 เมื่อ: 25, พฤศจิกายน 2012, 08:27:58 pm »

แล้วสกายเน็ต ของพม่าประมูล 8,0000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 2 ปีหล่ะเป็นงัย....5555

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance/asean-plus/20121125/479517/%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B9%8C%E0%B8%96%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%81.html
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
หมวดจ้อง
Hero Member
*****
กระทู้: 1,274



อีเมล์
« ตอบ #17 เมื่อ: 25, พฤศจิกายน 2012, 09:57:36 pm »

เราเป็นผู้บริโภคครับ กำไรหรือขาดทุนเป็นเรื่องของผู้ประกอบการ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

หมีขาว
Special Member
*
กระทู้: 108


อีเมล์
« ตอบ #18 เมื่อ: 25, พฤศจิกายน 2012, 11:03:06 pm »

ฝ่ายหนึ่งลงทุนเองเจ้าเดียว ถ้าเจ๊งก็เจ๊งเดี่ยวๆและเจ๊งมากๆ

อีกฝ่ายหนึ่งเหมือนจะลงทุนเยอะมาก แต่มีแนวร่วมและมีเพื่อนมาช่วยหารมาก เวลาเจ๊งก็แบ่งกันเจ๊ง

ตัวอย่างง่ายๆ เล่นไพ่คนเดียว 1,000 บาท ถ้าเสียก็หมดไปเลย 1,000 บาท
แต่ถ้ามีเพื่อน 10 คน ช่วยกันลงขันคนละ 100 บาท เวลาเจ๊งก็เสียเงิน 100 บาท แต่เวลารวยก็แบ่งๆกันไป แม้จะไม่รวยมากมายแต่ก็พออยู่ได้ การทำธุรกิจไม่มีใครอยากล้มคนเดียวหรอก

ลงทุนในสิ่งที่ผูกขาด ยังไงก็กำไรเพราะมีสิทธิ์ขาดเพียงเจ้าเดียว ถ้าประมูลมาได้บริหารจัดการดีๆ ยังไงก็มีกำไร

เค้าคงคิดดีแล้วล่ะถึงลงทุนประมูลมากขนาดนั้น บางทีคนรวยก็คิดในอีกอย่างที่คนจนอย่างเราคิดไม่ถึง
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
kom
Hero Member
*****
กระทู้: 1,479


อีเมล์
« ตอบ #19 เมื่อ: 26, พฤศจิกายน 2012, 09:52:27 am »

ยังไม่ทันไรคิดกันไปแทนจ้าวของซะแล้ว รู้เหรอว่าเค้าคิดทำไรอยู่ รอดูดีกว่า
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 ขึ้นบน พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  
 
ติด Banner ด้านล่างติดต่อ boransat@gmail.com
กระทู้ ความคิดเห็น บทความ ข้อความใด ๆที่ได้อ่านในบอรดนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแล ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยและ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย ศิลธรรม กรุณาแจ้งมาที่ boransat@gmail.com เพื่อที่ทีมงานจะได้ดำเนินการต่อไป



เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.7 | SMF © 2006-2008, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.033 วินาที กับ 19 คำสั่ง