ชื่อ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
04, พฤษภาคม 2024, 03:45:42 am
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: :: Thontกล่องแอนดรอย livetv55 star4k hd2live iptvso เซิรฟskynet/500 ::

dvb

+  บอร์ดโบราณ ดาวเทียม - HD player - CCTV
|-+  อุปกรณ์เครื่องรับดาวเทียมทีวีดิจิตอล
| |-+  ถามตอบปัญหาดาวเทียมและทีวีดิจิตอล
| | |-+  หลายท่านคงไม่รู้วีธีการนำเครื่องHDเข้าไทย
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: หลายท่านคงไม่รู้วีธีการนำเครื่องHDเข้าไทย  (อ่าน 4359 ครั้ง)
jay
Special Member
*
กระทู้: 2,848



อีเมล์
« เมื่อ: 05, พฤษภาคม 2011, 06:36:34 pm »

เครื่องที่นำเข้ามาขายในไทยและขายราคาถูกได้ ส่วนใหญจะนำเข้ามาเป็นชิ้นส่วน และนำมาประกอบในไทย
บางเจ้าใช้วิธีถอดฝาครอบและเมนบอร์ดออก ดูได้จากหมายเลขที่กล่องและตัวเครื่องมักจะไม่ตรงกัน
กล่องบรรจุสภาพไม่สมบูณ์ บางเจ้าไม่มีคู่มือติดมาหรือมีก้ยับ คู่มือเข้าจะใส่มาเป็นแผ่นcd
เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงภาษี จากที่ต้องจ่ายเต็มสำหรับเครื่องที่นำเข้ามาและพร้อมใช้งานได้เลย
กับจ่ายเป็นภาษีอะไหล่ นำเข้าชิ้นส่วน แล้วนำมาประกอบในไทย ซึ่งมีผลกับการรับประกันตัวเครื่อง
ปล .เอามาเล่าสู่กันฟังเล่นๆ  ดีที่ผุ้ซื้อได้สินค้าราคาถูก แต่ ไม่ดีต่อประเทศชาติ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
goods_buy
Special Member
*
กระทู้: 2,249


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: 05, พฤษภาคม 2011, 06:48:22 pm »

เครื่องที่นำเข้ามาขายในไทยและขายราคาถูกได้ ส่วนใหญจะนำเข้ามาเป็นชิ้นส่วน และนำมาประกอบในไทย
บางเจ้าใช้วิธีถอดฝาครอบและเมนบอร์ดออก ดูได้จากหมายเลขที่กล่องและตัวเครื่องมักจะไม่ตรงกัน
กล่องบรรจุสภาพไม่สมบูณ์ บางเจ้าไม่มีคู่มือติดมาหรือมีก้ยับ คู่มือเข้าจะใส่มาเป็นแผ่นcd
เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงภาษี จากที่ต้องจ่ายเต็มสำหรับเครื่องที่นำเข้ามาและพร้อมใช้งานได้เลย
กับจ่ายเป็นภาษีอะไหล่ นำเข้าชิ้นส่วน แล้วนำมาประกอบในไทย ซึ่งมีผลกับการรับประกันตัวเครื่อง
ปล .เอามาเล่าสู่กันฟังเล่นๆ  ดีที่ผุ้ซื้อได้สินค้าราคาถูก แต่ ไม่ดีต่อประเทศชาติ

ช่วยแก้ไขข้อมูลให้ครับ

เครื่องส่วนใหญ่ นำเข้ามาครบชุด
เหตุที่เห็น หมายเลขตัวเครื่องและเลขที่กล่อง ไม่ตรงกัน  เพราะ....คนนำเข้า นำเครื่องมากองเป็นตั้ง ๆ แล้วทำการอัพเกรด แล้วตอนใส่ ไม่สนใจเรื่อง หมายเลขเครื่องและหมายเลขกล่อง 

แต่หากผู้นำเข้า ใช้คนที่มีความรอบคอบในการจัดการกับเครื่อง  เลขกล่องและเลขเครื่องจะตรงกัน

และการนำเข้าเครื่อง ส่วนมากแล้ว เสียภาษีไม่ตรงกับสินค้าจริง (อันนี้ไม่ดีต่อประเทศชาติ  แต่ผู้ซื้อได้ราคาถูก)

ข้อมูลขัดแย้งนิดหน่อยนะครับ แต่เป็นข้อมูลที่เป็นจริง
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
jay
Special Member
*
กระทู้: 2,848



อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: 05, พฤษภาคม 2011, 08:48:31 pm »

ขอบคุณ ท่าน  goods_buy ครับ แต่เจ้าที่ผมสั่งเขาบอกว่าต้องถอดมาเป็นชิ้นๆ
แล้วค่อยมาประกอบในไทยจะประหยัดกว่ามาเป็นตัวครับเขาจึงขายถูกกว่าของคนอื่นได้
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
goods_buy
Special Member
*
กระทู้: 2,249


อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: 05, พฤษภาคม 2011, 10:55:09 pm »

ขอบคุณ ท่าน  goods_buy ครับ แต่เจ้าที่ผมสั่งเขาบอกว่าต้องถอดมาเป็นชิ้นๆ
แล้วค่อยมาประกอบในไทยจะประหยัดกว่ามาเป็นตัวครับเขาจึงขายถูกกว่าของคนอื่นได้

อ่อ รับทราบครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
click
Special Member
*
กระทู้: 3,733



อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: 06, พฤษภาคม 2011, 08:41:48 am »

สมองน้อยๆ....ช่วยคิดหน่อยว่า......ช่วยชาติหรือช่วยพ่อค้า+ตัวเองดีหว่า....555
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

REPORTER TPBS
Hero Member
*****
กระทู้: 1,035



อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: 06, พฤษภาคม 2011, 12:06:59 pm »

กระทู้นี้ได้ความรู้ดี ขอขอบคุณครับ..
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
peestar
Newbie
*
กระทู้: 95


อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: 06, พฤษภาคม 2011, 12:37:18 pm »

การมาประกอบในไทยน่าจะเพิ่มต้นทุนนะครับ  เพราะค่าแรง ไทย กับ จีน ต่างกันมากนะครับ และหากมาประกอบในไทยรับประกันอย่างไร โดยมากพ่อค้านำเข้าเป้นตัวแต่สำแดงการเสียภาษีเป็นอย่างอื่นหรือไม่ก็นำเข้าตามแนวชายแดน ถูกที่สุดครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
doctork
Jr. Member
**
กระทู้: 128


อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: 06, พฤษภาคม 2011, 02:59:18 pm »

ขอบคุณ ท่าน  goods_buy ครับ แต่เจ้าที่ผมสั่งเขาบอกว่าต้องถอดมาเป็นชิ้นๆ
แล้วค่อยมาประกอบในไทยจะประหยัดกว่ามาเป็นตัวครับเขาจึงขายถูกกว่าของคนอื่นได้


พ่อค้าเจ้าไหนครับ จะได้ไม่ซื้อ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
goods_buy
Special Member
*
กระทู้: 2,249


อีเมล์
« ตอบ #8 เมื่อ: 06, พฤษภาคม 2011, 10:05:09 pm »

การมาประกอบในไทยน่าจะเพิ่มต้นทุนนะครับ  เพราะค่าแรง ไทย กับ จีน ต่างกันมากนะครับ และหากมาประกอบในไทยรับประกันอย่างไร โดยมากพ่อค้านำเข้าเป้นตัวแต่สำแดงการเสียภาษีเป็นอย่างอื่นหรือไม่ก็นำเข้าตามแนวชายแดน ถูกที่สุดครับ

ใช่ครับพี่ 

คนนำเข้า จะเสียภาษีแบบอื่น ไม่เสียตรง ๆ ประหยัดกว่าเป็นไหน ๆ ไม่ต้องเสียเวลามานั่งประกอบด้วย
การประกอบเครื่อง ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ  เลย หากจะให้ได้มาตรฐานแบบที่โรงงานประกอบ
ในโรงงาน ผลิตและประกอบตาม line การผลิต แถมท้ายสุดจะต้อง QC ด้วย (พอดีเคยไปดูงานที่จีน กับ เกาหลี)

และการที่แจ้งว่า เลขกล่องกับเครื่องไม่ตรงกัน ก็ไม่น่าจะเป็นประเด็น เพราะ label นั้น เค้าพิมพ์มาเป็นแผ่นใหญ่ ๆ (ทั้งติดเครื่อง ติดกล่อง ติดอุปกรณ์เสริม)
หากนำมาประกอบในไทย ก็สั่ง label แบบที่ยังไม่ได้ใช้งาน
เมื่อประกอบเครื่องเสร็จ ก็แปะเครื่อง แปะกล่อง แค่นี้เลขก็ตรงกันแล้วครับ

หรือลองคิดเล่น ๆ หากสั่งเครื่องเข้ามา 5000 เครื่อง เพื่อนำมาประกอบ จะต้องใช้พื้นที่และแรงงานคนเท่าไร (หากวางแผนไม่ดีพอ ใช้เวลานานทีเดียว)

แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
newsone
Special Member
*
กระทู้: 3,405


อีเมล์
« ตอบ #9 เมื่อ: 07, พฤษภาคม 2011, 06:54:09 pm »

ใครบอกครับว่าค่าแรงจีนถูกกว่าไทย งงครับ
ลองไป่อ่านดู ค่าแรงจีน ต่ำๆ นี่ 20000  บาท ขึ้นครับ
http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9540000033845
 จีน ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก 1,300 กว่าล้านคน เป็นที่กล่าวขวัญด้านแรงงานราคาถูก ที่ช่วยสร้างชาติจนทะยานขึ้นมาเป็นยักษใหญ่เศรษฐกิจอันดับสองของโลกในทุกวันนี้ ด้วยการเป็นแรงงานราคาถูกในโรงงานผลิตสินค้าโรงงานราคาถูก ถล่มตลาดโลกมา 30 กว่าปี หลังจากที่จีนปฏิรูปเศรษฐกิจเปิดประเทศเมื่อปลายทศวรรษที่ 1990
       
       แรงงานราคาถูกเหล่านี้แทบทั้งหมดเป็นแรงงานอพยพ มีจำนวนราว 200 คน ที่มีบ้านเกิดในดินแดนตอนในที่ยากจนกว่า ใครจะนึกว่าไม่กี่ปีมานี้ กระแสแรงงานราคาถูกของจีนกำลังเปลี่ยนไป ดังเช่นชีวิตของแรงงานอพยพคนหนึ่ง ชื่อ นาย หลู่ จวิน วัย 25 ปี หลู่เริ่มชีวิตการเป็นแรงงานในโรงงานพิมพ์หีบห่อแห่งหนึ่งในมณฑลชายฝั่งตะวันออกแห่งอันฮุย เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งขณะนั้นเขาคิดว่าจะต้องเป็นคนงานในโรงงานไปตลอดชีวิต แล้วจู่ๆเขาก็พบว่าชีวิตมีทางเลือกอื่นอีกมากมาย และมีอำนาจต่อรองในอาชีพอย่างไม่คาดคิดมาก่อน
       
       “ทุกวันนี้ การหาแรงงานที่มีทักษะอย่างผม ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกแล้ว บริษัทที่ผมเคยทำงานด้วย โทรมาตามผมหลายครั้ง ให้กลับไปช่วยงาน แต่แม้นายจ้างจะเพิ่มเงินเดือนให้สูงแล้วก็ตาม ผมก็ยังไม่พอใจ ผมอยากจะไปทำงานกับภรรยาของผมที่เซี่ยงไฮ้มากกว่า” หลู่ เล่าถึงความเปลี่ยนแปลงชีวิตที่มีทางเลือกมากขึ้นของตน
       
       อดีตนายจ้างของหลู่ที่โทรมาตามเขากลับไปทำงาน เสนอเงินเดือน 3,800 หยวน (หรือ เกือบ 20,000 บาท) คิดเป็นอัตราเพิ่ม 27 เปอร์เซนต์ แต่เขาบอกว่า ขณะนี้เขาตั้งเป้าเงินเดือนไว้ไม่ต่ำกว่า 4,000 หยวน หรือ ราว 20,000 บาท “ผมจะหางานไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้งานที่พอใจ” หลู่ กล่าว
       
       ทั้งเจ้าของโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆและรัฐบาลท้องถิ่นในจีนเผชิญสถานการณ์ขาดแคลนแรงงาน ที่ส่งสัญญาณมาตั้งแต่ปี 2550 แล้ว โดยเริ่มจากเขตโรงงานผลิตสินค้าส่งออกตามชายฝั่ง เข้าสู่ตอนในของประเทศแล้ว

 
   
แรงงานอพยพที่สถานีรถไฟนครเซี่ยงไฮ้ ขณะเดินทางกลับบ้านช่วงเทศกาลตรุษจีน เดือนม.ค. 2554 (แฟ้มภาพ เอเอฟพี) 
 
 
       การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวยิ่งปรากฏชัดเจนหลังช่วงเทศกาลวันหยุดตรุษจีนที่ผ่านมา คนงานหลายคนกลับบ้านไปฉลองปีใหม่กับครอบครัวและไม่กลับมาทำงานอีก ด้านหน้าสถานีรถไฟในนครเซี่ยงไฮ้ ถึงกับติดป้ายไฟฟ้าใหญ่เบ้อเร่อ ที่มีอักษรตัววิ่ง ว่า “ขอต้อนรับแรงงานอพยพสู่เมืองหลังวันหยุด”
       
       ในอันฮุย เจ้าหน้าที่ยังได้ช่วยบริษัทในท้องถิ่น รับสมัครคนงาน โดยส่งรถบัสคันใหญ่ไปรับคนมาชมงานมหกรรมรับสมัครงาน ในงานฯมีบริษัทรายหนึ่งที่นอกจากเสนอรายได้สูง ยังได้เป็นสปอนเซอร์งานหาจัดหาคู่รักของโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าใกล้ๆกัน ซึ่งมีคนงานเป็นหญิงทั้งหมด ซึ่งเป็นวิธีดึงตัวคนงานหนุ่มๆไว้
       
       กลุ่มนักเศรษฐกรชี้ถึงเหตุปัจจัยของกระแสขาดแคลนแรงงานว่ามาจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ผสมโรงกับการเปลี่ยนแปลงด้านประชากร ที่เป็นผลพวงจากนโยบายลูกคนเดียว
       
       นาย จัง อี้ เจ้าหน้าที่ประจำสถาบันเศรษฐกิจแรงงานและประชากร สังกัดบัณฑิตยสถานด้านสังคมศาสตร์แห่งรัฐจีน ระบุในเดือนม.ค.ปีนี้(2554) ว่าเขตชายฝั่งขาดแคลนคนงานราว 10 ล้าน โดยเฉพาะสามเหลี่ยมเศรษฐกิจจูเจียง (หรือแม่น้ำไข่มุก) ที่มีมณฑลก่วงตง หรือกวางตุ้งเป็นศูนย์กลางนั้น ยังต้องการคนงาน 2-3 ล้านคน
       
       เจ้าหน้าที่สถาบันเศรษฐกิจแรงงานและประชากร อธิบายสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนแรงงานว่า เป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร โดยนโยบายลูกคนเดียวที่รัฐบาลดำเนินมา 30 ปี ได้ลดจำนวนประชากรที่เกิดในช่วงปีทศวรรษที่ 1980 และ 1990 และแรงงานอพยพส่วนใหญ่ก็เป็นกลุ่มวัยหนุ่มสาว
       
       “คนวัยหนุ่มสาวเหล่านี้ มีการศึกษาค่อนข้างดี ไม่เหมือนกับคนรุ่นพ่อแม่พวกเขา ที่ส่วนใหญ่จบการศึกษาเพียงระดับมัธยมแล้วก็ออกมาทำงานในเมือง กระแสแรงงานอพยพที่ไม่ต้องการทำงานในโรงงานผลิตที่ใช้แรงงานสูง ขยายวงมากขึ้น เนื่องจากค่าแรงต่ำ และผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มต่ำ”
       
       จังยังได้ชี้ถึงอีกเหตุปัจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนแรงงานตามเขตชายฝั่ง เนื่องจากมีกลุ่มบริษัทมากมายย้ายไปตั้งฐานการผลิตยังเขตตอนในของประเทศ เพื่อสร้างทางเลือกให้แก่คนท้องถิ่นได้ทำงานใกล้กับบ้านเกิดของพวกเขา
       
       หลู่ เสวี่ยจิง จากแคตปิตัล ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ อีโคโนมิค์ส แอนด์ บิสซิเนส ในกรุงปักกิ่ง ชี้ว่า แรงงานอพยพตามเขตชายฝั่งนั้นเป็น “แรงงานระยะสั้น” พวกเขามักเปลี่ยนงานกันบ่อย เป็นเหตุให้พวกโรงงานที่จ่ายต่ำขาดคนงาน นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างในโรงงานหลายแห่ง ก็เป็นความสัมพันธ์แบบนายจ้างและลูกจ้างเพียวๆโดยไม่มีความรู้สึกผูกพันอื่นๆเลย
       
       อย่างก็ตาม นาย จังชี้จุดดีของสภาพขาดแคลนแรงงานนี้ จะช่วยผลักดันให้กลุ่มผู้ผลิตสินค้าระดับล่าง ยกระดับอุปกรณ์เครื่องมือ และเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์จากตลาดที่คอยแต่รับคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเท่านั้น โดยการหันมายกระดับกิจการการผลิตไปสู่การผลิตสินค้ามูลค่าเพิ่มสูงขึ้นนั้น ไม่เพียงแต่ยกระดับการแข่งขันของผู้ผลิต แต่ยังช่วยดึงดูดคนงาน
       
       “แม้ว่ามณฑลต่างๆทั่วประเทศจีน ได้ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำไปเมื่อปีที่แล้ว และยังมีแผนที่จะขึ้นค่าแรงกันอีกในปีนี้ แต่ก็ดูเหมือนจะยังไล่ไม่ทันราคาค่าเช่าอพาร์ทเมนท์ ค่าเล่าเรียนลูกๆ ซึ่งได้กลายมาเป็นปัญหาใหญ่ของกลุ่มคนงาน พวกเขาต้องดิ้นรนหาทางเลือกอื่นๆที่ดีกว่าที่จะได้เงินมากกว่า อาทิ บางกลุ่มก็กลับบ้าน ไปเปิดกิจการของตัวเอง”.
       
       อย่างไรก็ตาม นักวิจัยอาวุโส นาย มั่ว หรง ประจำกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และประกันสังคม ไม่เห็นด้วยกับกระแสขาดแคลนแรงงานนัก โดยบอกว่ายังมีแรงงานอีกมากมายที่พร้อมทำงานกับบรรดาบริษัทที่จ่ายเงินเดือนสูง
       
       แต่นาย เสิ่น เจี้ยนกวง เศรษฐกร ประจำ มิซูโฮ ซีเคียวริตี้ ใน ฮ่องกง ก็คาดการณ์ว่ากระแสขาดแคลนแรงงานในจีนจะยิ่งตึงเครียดในไม่กี่ข้างหน้านี้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายของเศรษฐกิจจีน คือ มันจะเพิ่มแรงกดดันให้จีนเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีปัจจัยขยายตัวหลักจากภาคการผลิตที่ใช้แรงงานสูง.

 
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  
 
ติด Banner ด้านล่างติดต่อ boransat@gmail.com
กระทู้ ความคิดเห็น บทความ ข้อความใด ๆที่ได้อ่านในบอรดนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแล ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยและ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย ศิลธรรม กรุณาแจ้งมาที่ boransat@gmail.com เพื่อที่ทีมงานจะได้ดำเนินการต่อไป



เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.7 | SMF © 2006-2008, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.025 วินาที กับ 19 คำสั่ง