ชื่อ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
19, พฤษภาคม 2024, 09:30:32 pm
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: :: ต้องการประชาสัมพันธ์สินค้าติดต่อ boransat@gmail.com ::

dvb

+  บอร์ดโบราณ ดาวเทียม - HD player - CCTV
|-+  อุปกรณ์เครื่องรับดาวเทียมทีวีดิจิตอล
| |-+  ถามตอบปัญหาดาวเทียมและทีวีดิจิตอล
| | |-+  "ซีทีเอช" ไม่เกี่ยง "ทรูฯ" ร่วมแจม เผยทุ่มงบ 2 หมื่นล.
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: "ซีทีเอช" ไม่เกี่ยง "ทรูฯ" ร่วมแจม เผยทุ่มงบ 2 หมื่นล.  (อ่าน 4180 ครั้ง)
we สุราษฎร์
Jr. Member
**
กระทู้: 134


อีเมล์
« เมื่อ: 15, พฤศจิกายน 2012, 05:00:15 pm »

บริษัท เคเบิล ไทยโฮลดิ้ง จำกัด (CABLE THAI HOLDING) แถลงข่าวคว้าสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอล พรีเมียร์ชิป อังกฤษ อย่างเป็นทางการ 3 ปีนับตั้งแต่ฤดูกาล 2013-14 เป็นต้นไป เผยวางงบประมาณขั้นต่ำจากนี้ 20,000 ล้านบาทรวมค่าซื้อลิขสิทธิ์และจัดการสร้างคอนเทนต์ต่างๆ ออกมาในรูปแบบกล่องบอกรับสมาชิกรายเดือน พร้อมเปิดกว้างจับมือพันธมิตร แม้กระทั่ง บริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) แต่ยืนยันไม่มีการฮั้วประมูลเด็ดขาด
       
        วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน 2555 เมื่อเวลาประมาณ 15.00น. ณ โรงพยาบาลพญาไท 2 นายวิชัย ทองแตง ประธานกรรมการบริษัท เคเบิล ไทยโฮลดิ้ง จำกัด และ วัชร วัชรพล ทายาทหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ตั้งโต๊ะแถลงคว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอล พรีเมียร์ชิป อังกฤษ 3 ปี หลังทราบผลจากทาง พรีเมียร์ ลีก ประเทศอังกฤษตอน 8 โมงเช้าตามเวลาท้องถิ่นวันเดียวกัน
       
        สำหรับงบที่ "ซีทีเอช" ทุ่มลงไปครั้งนี้ นายวิชัย ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ตอนนี้ แต่คาดกันว่าอยู่ระหว่าง 7,000-9,000 ล้านบาท โดยกล่าวว่า "เราคว้าสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอล พรีเมียร์ชิป ในประเทศไทยครอบคลุมถึง กัมพูชา และ ลาว ตอนนี้แผนที่วางไว้คร่าวๆ คือเป็นแบบขายกล่องบอกรับสมาชิกรายเดือน ส่วนเรื่องประมูลยังบอกไม่ได้เพราะถือเป็นจรรยาบรรณต่อผู้ร่วมอาชีพและต้องรอ พรีเมียร์ ลีก อนุญาต รวมถึง คุณกฤษณัน งามผาติพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งเดินทางไปเจรจากลับมาก่อน"
       
        นายวิชัย อดีตทนายความและนักลงทุนตัวยงในธุรกิจตลาดหลักทรัพย์รวมถึงมีหุ้นอยู่ในโรงพยาบาลหลายแห่ง เผยอีกว่า "จากนี้เราพร้อมเปิดรับพันธมิตรจากทุกค่ายไม่เว้นแม้กระทั่ง ทรู วิชันส์ ที่ยังมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ซึ่งก็มีติดต่อเข้ามา 2-3 เจ้าแล้ว แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎที่ พรีเมียร์ ลีก วางเอาไว้ ขอยืนยันว่าครั้งนี้ไม่มีฮั้วประมูล โดยงบประมาณที่เราวางเอาไว้ตอนนั้นขั้นต่ำรวมค่าลิขสิทธิ์และจัดการทุกอย่างน่าจะอยู่ที่ 20,000 ล้านบาท"
       
        เป็นอันว่าได้ข้อสรุปแล้วว่าปีหน้า "ซีทีเอช" จะรับช่วงถ่ายทอดสดฟุตบอล พรีเมียร์ชิป ต่อจาก ทรู วิชันส์ ส่วน จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ จำกัด (มหาชน) กับ อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ก็ต้องอกหักไปตามระเบียบ โดยทางสื่ออังกฤษได้เผยตัวเลขว่าการประมูลครั้งนี้ถือว่ามีตัวเงินสูงมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ทำให้โกยรายได้จากทั่วโลกไปทั้งสิ้น 5,000 ล้านปอนด์ (ประมาณ 250,000 ล้านบาท) โดยแชมป์จะได้เงินถึง 100 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5 พันล้านบาท)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
Ton
Newbie
*
กระทู้: 4


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: 15, พฤศจิกายน 2012, 05:03:12 pm »

ข่าวมันแรงแบบหยุดไม่อยู่จริงๆ ทรูสลายฝันหลายๆคน แต่ตอนนี้ตัวเองฝันสลายไปสะแล้ว

มาเหมือนกัน 2 กระทู้ติด ไม่รู้จะโพสอันไหนดี อิอิ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
wa
Hero Member
*****
กระทู้: 678


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: 15, พฤศจิกายน 2012, 05:42:38 pm »

ต่อไปพรีเมี่ยมลีกจะเป็นตลาดแมสมากขึ้น
พูดง่ายๆ คงลงถึงรากหญ้าแล้วล่ะ
ผมกลับมองราคาน่าจะถูกลงกว่าทรู หากคิดเป็นเงินต่อเดือน
ของทรูซิน่าปวดลละทีนี้ ราคา Gold และ Platinum จะลดลงมาบ้างไหม
ดูจากการแถลงข่าวแล้ว เหมือนทรูไปซื้อสิทธิ์จาก CTH อีกที พร้อมทั้งแถมช่องหลายช่องให้ CTH ไปด้วย
ทรูไม่ได้โง่นะครับ ทรูยังมีหนี้สะสมอยู่เยอะ ราคาประมูลนั้นคงไม่ไหว
คงตั้งใจให้ CTH ได้ไป ได้ดูบอลครบทุกแมตท์ไหม น่าคิดครับสำหรับลูกค้าทรู
กล่อง C-band ทั้วไป คงหมดสิทธิ์ดู ต้องเป็นกล่องที่มีการลงทะเบียนเข้าระหัสขึ้นทะเบียนไว้
กล่องทีวีดิจิตอลต้นปีหน้ามาแน่ๆ เตรียมเงินซื้อช่องเพิ่มได้เลย......
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
anuuna99
Sr. Member
****
กระทู้: 404


อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: 15, พฤศจิกายน 2012, 05:55:44 pm »

Cth เค้าอาศัยเคเบิลของทรู ส่วนหนึ่ง
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
joeychun
Special Member
*
กระทู้: 555


อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: 15, พฤศจิกายน 2012, 06:55:00 pm »

ส่วนตัว คิดว่า "ซีทีเอช" กับ "ทรูฯ" ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ไม่เหมือน แกรมมี่  ซึ่งคิดว่าทรูก็น่าจะซื้อจาก  "ซีทีเอช" อีกที เพราะ ระบบเคเบิล จริงๆยังไม่ทั่วถึง ก็คงต้องทำกล่องรับมาขายอีก  ถ้าเรื่องระบบดาวเทียมต้องยอมรับว่าของทรูพร้อมที่สุด ทรูอาจซื้อต่อแบบไม่ครบทุกแมทช์ แต่น่าจะมี บิ๊กแมทช์ ช่อง เอชดี ละครับ แก้เ้ก้อ ส่วนตัวนะครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

noomsaren
Full Member
***
กระทู้: 224


อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: 15, พฤศจิกายน 2012, 07:01:35 pm »

อ้าว...แล้วเราๆ ท่าน ๆ ที่อาศัยแว่บไปทั่ว จะดีใจหรือเสียใจกันดีหล่ะเนี่ย....สรุปก็คือ ถ้ามันถูกกว่าเจ้าเดิม ก็น่าจะโอเคแล้วแหล่ะ ใคร ๆ ก็อยากดูแบบถูกลิขสิทธิ์ แต่อย่าขูดรีดกันเกินไป ถ้าขูดรีด ก็ไม่ดูเหมือนกันแหล่ะ (หยิ่ง เพราะไม่มีตังค์น่ะ) อิิอิ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
pong333
Special Member
*
กระทู้: 256


อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: 15, พฤศจิกายน 2012, 07:02:31 pm »

จากข่าว CTH น่าจะเตรียมความพร้อมในการทำเองครับ

ชี้ทิศเคเบิลทีวีแข่งเดือด ฉุดผู้ประกอบการรายย่อยรวมตัวเกาะกลุ่มแน่น "ซีทีเอช"  มั่นใจสร้างความแข็งแกร่งสู้แบรนด์ใหญ่ พร้อมลงทุนประมูลลิขสิทธิ์พรีเมียร์อังกฤษ  จับตาปีหน้าศึกชิงกล่องรับสัญญาณสุดแรง

หลังทุ่มงบ 7 พันล้านนำเข้ากล่องรับสัญญาณล็อตใหญ่จากจีนอีก  2.5 ล้านกล่อง พร้อมปรับขึ้นค่าโฆษณาทะลุ 2 หมื่นบาทต่อนาที
    นายวิชิต เอื้ออารีวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญยิ่ง (8888) จำกัด และอุปนายกสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การแข่งขันที่รุนแรงของธุรกิจเคเบิลทีวีในปัจจุบัน ทำให้ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีรายย่อย ต้องหารือและรวมตัวกันเพื่อสร้างความแข็งแกร่ง ให้เคเบิลทีวีทั่วประเทศมีแพลตฟอร์มและทิศทางการดำเนินธุรกิจเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่งที่ผ่านมาต่างคนต่างทำกระจัดกระจายกันไป ถือเป็นการผนึกรวมกัน เพื่อเสริมให้ธุรกิจแข็งแรง สามารถแข่งขันในธุรกิจ ที่มีผู้ประกอบการรายใหญ่รวมทั้งสื่อทีวีดาวเทียมด้วย  
    โดยบริษัทและเคเบิลทีวีทั่วประเทศรวมกลุ่ม โดยมีบริษัท เคเบิลไทยโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ CTH ซึ่งเป็นบริษัทในเครือสมาคมเคเบิลทีวีฯ เป็นแกนกลาง ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้เป็นการสร้างเครือข่าย ทำให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ที่เท่าเทียมกัน เนื่องจากปัจจุบันกลุ่มผู้ชมส่วนใหญ่จะเลือกดูรายการที่มีคอนเทนต์ ดังนั้นการจะเข้าไปซื้อลิขสิทธิ์รายการคอนเทนต์ดีๆ ถ้าแยกตัวกัน หรือต่างคนต่างซื้อคงเป็นไปได้ยากที่จะซื้อมาได้
    รวมทั้งการประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์อังกฤษฤดูกาลหน้า ที่จะมีขึ้นในครั้งนี้ก็มีแต่ผู้เล่นรายใหญ่ที่ให้ความสนใจและร่วมประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดทั้งแกรมมี่  , อาร์เอส  ฯลฯ  จากเดิมที่มีทรู เพียงรายเดียว  ดังนั้นบริษัทมองว่าการจะสร้างฐานผู้ชมในอนาคตอีก 5 ปีให้ได้กว่า 10 ล้านครัวเรือนนั้น จำเป็นต้องมีคอนเทนต์ที่ดีและพรีเมียร์ ถือเป็นคอนเทนต์สำคัญในครั้งนี้ที่จะนำรายได้ก้อนงามและขยายฐานผู้ชมในอนาคตให้กับธุรกิจเคเบิล
    "ศึกการประมูลพรีเมียร์อังกฤษ ย้อนไปเมื่อ 3 ปีที่แล้วยอดการประมูลอยู่ที่ประมาณ 2.5 พันล้านบาท แต่ในครั้งนั้นยังไม่มีคู่แข่งมาก ทำให้การประมูลครั้งนั้นยอดจึงไม่สูง แต่จากการประเมินในปีนี้ที่จะเปิดประมูลในวันที่ 7-14 พฤศจิกายน นี้ เราประเมินว่ายอดอาจจะอยู่ที่ประมาณ 4 พันล้านบาท ซึ่งการประมูลครั้งนี้เรามองว่าทุกค่ายเตรียมทุ่มกันไม่อั้น เพราะถ้า 3 ค่าย ทรู แกรมมี่ และ CTH ใครไม่มีกล่องรับสัญญาณในมือก็คงจะไม่มีความหมาย" นาย วิชิตกล่าว
    อีกทั้งการรวมตัวครั้งนี้ ซีทีเอชได้วางวงเงินลงทุนธุรกิจในช่วง 3-5 ปีนี้อยู่ที่ประมาณ 3.5 – 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งในปีนี้ใช้เงินไปแล้วกว่า 1 พันล้านบาท อีกทั้งปลายปีนี้ยังใช้งบอีกกว่า 20 ล้านบาทในการปรับระบบเคเบิลทั่วประเทศจากเดิมเป็นระบบอะนาล็อกให้เข้าสู่ระบบดิจิตอล พร้อมทั้งรวบรวมซื้อคอนเทนต์ต่างๆจากทั่วโลกอีกกว่าหลายร้อยล้านบาท
    นอกจากนี้CTH ยังมีแผนใช้งบประมาณกว่า 7 พันล้านบาทในปีหน้า แบ่งเป็นการนำเข้ากล่องรับสัญญาณจากประเทศจีนล็อตใหญ่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์จำนวน  2.5 ล้านกล่องหรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาท  และปีถัดไปจะใช้งบลงทุนกว่า 1 หมื่นล้านบาทสำหรับการลงทุนต่างๆอีกด้วย
    ขณะที่แผน 5 ปีข้างหน้าบริษัทมองว่าธุรกิจเคเบิลจะมีรายได้เข้ามามากขึ้น ทั้งอินเตอร์เน็ต การขายสินค้าผ่านช่องรายการ ฯลฯ อีกทั้งธุรกิจเคเบิลเป็นธุรกิจที่วางโครงข่ายระบบสาย ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลเรื่องของจอดำ ภาพหาย หรือปัญหาต่างๆที่จะตามเข้ามา
    สำหรับภาพรวมของผู้ชมรายการโทรทัศน์ทั่วประเทศ ปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 22 ล้านครัวเรือน แบ่งเป็น 50% ดูเสาก้างปลาหรือฟรีทีวี 22% ดูทีวีดาวเทียม และ 28% ดูเคเบิลทีวี  ซึ่งในอนาคตบริษัทมองว่า จะมีผู้ชมที่ดูเสาก้างปลาลดลงเหลือเพียง 2ล้านครัวเรือน และจะเพิ่ม-ส่วนของกลุ่มทีวีดาวเทียมเป็น 10 ล้านครัวเรือน และเคเบิลทีวี 10 ล้านครัวเรือน
     อีกทั้งในอนาคตเมื่อบริษัทเคเบิลทั่วประเทศมีการรวมตัวกัน สิ่งที่จะเกิดอย่างแรกนั่นคือแพลตฟอร์มรายการคอนเทนต์ต่างๆจะมีรูปแบบที่เหมือนกัน แต่จะมีช่องว่างไว้ 10 ช่อง เพื่อให้แต่ละบริษัทเคเบิลได้ทำคอนเทนต์ของตัวเอง พร้อมทั้งการเก็บเงินจะเป็นบิลลิ่งเดียวกันทั้งหมด และสุดท้ายชื่อแบรนด์ของเคเบิลทุกค่ายจะต้องมีชื่อ CTH ระบุ
    ทั้งนี้CTH วางแผนปรับเรตค่าโฆษณาผ่านเคเบิลเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 2 หมื่นบาทต่อนาที เนื่องจากการนำคอนเทนต์ดีๆเข้ามาจะช่วยให้มีบริษัทโฆษณาสนใจมากขึ้น ซึ่งจากปัจจุบันเรตค่าโฆษณาในกลุ่มเฉลี่ยอยู่ที่ 300-1 พันบาทต่อนาที โดยมีงบโฆษณาที่ผ่านทางจอโทรทัศน์แต่ละปีเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 6 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มฟรีทีวี 90% และที่เหลือ 10% คือกลุ่มเคเบิลและทีวีดาวเทียม
        สำหรับภาพรวมของบริษัท เจริญยิ่งฯที่ผ่านมา บริษัทซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์รายการทั้งในส่วนของบริษัท ซีทีเอชฯ,  อาร์เอส  ฯลฯ  พร้อมปรับระบบเข้าสู่ดิจิตอล เพิ่มช่องรายการจากเดิม 80 ช่องเป็น 350 ช่อง ขณะที่ภาพรวมผู้ชมของบริษัทเดิมมีอยู่จำนวนทั้งสิ้น 2.5 แสนคน ปัจจุบันมียอดจำนวนสมาชิกกว่า 3 แสนคน เนื่องจากขยายผู้ชมผ่านทางกลุ่มโรงแรม และโรงพยาบาลมากขึ้น และคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 20% จากยอดสมาชิกที่เพิ่มขึ้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 32 ฉบับที่ 2,785 วันที่  21-24  ตุลาคม  พ.ศ. 255
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
หมวดจ้อง
Hero Member
*****
กระทู้: 1,274



อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: 15, พฤศจิกายน 2012, 08:17:06 pm »

ที่แน่ๆ คาดว่ามันจะต้องได้ดูถูกลง  จะได้ใช้ของแท้คราวนี้กระมัง
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

prampituk
Full Member
***
กระทู้: 207


อีเมล์
« ตอบ #8 เมื่อ: 15, พฤศจิกายน 2012, 09:47:58 pm »

ที่แน่ๆ คาดว่ามันจะต้องได้ดูถูกลง  จะได้ใช้ของแท้คราวนี้กระมัง
ถ้าเป็นจริงก็ดีเลยท่าน แต่ได้สิทธิ์สามปีหารกำไรขาดทุนออกมาแล้วมันจะกล่องละเท่าไรกันหนอ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  
 
ติด Banner ด้านล่างติดต่อ boransat@gmail.com
กระทู้ ความคิดเห็น บทความ ข้อความใด ๆที่ได้อ่านในบอรดนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแล ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยและ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย ศิลธรรม กรุณาแจ้งมาที่ boransat@gmail.com เพื่อที่ทีมงานจะได้ดำเนินการต่อไป



เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.7 | SMF © 2006-2008, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.093 วินาที กับ 20 คำสั่ง