R จะลดทั้ง V และ I ครับ เพื่อให้ทั้ง V และ I ตรงตามเสปคที่หลอด LED ทนได้ ท่านลองเขียนสมการ KVL ของวงจรอนุกรมของหลอด LED ดูท่านจะได้ V_s - IR - V_LED = 0 ซึ่ง V_LED ก็คือ Turn On Voltage ของหลอด LED ว่าต้องไม่ต่ำกว่าเท่านี้หลอดถึงจะติด ส่วนค่า I ถูกบังคับไปในตัวว่าต้องไม่เกินค่าที่หลอด LED ทนได้สูงสุดเพราะวงจรมันเป็นอนุกรม สุดท้าย V_s คือ V จากแหล่งจ่ายไฟนั่นเอง
จากสมการด้านบนถ้าค่า R เป็น 0 คือไม่มี R เราก็จะได้ V_s = V_LED ลองคิดดูถ้า V_s มีค่าเท่ากับ 12V แล้ว V_LED ทนได้สูงสุด 3.3 V มันจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งนั่นก็คือ V_s กับ I_s จะไฟลเข้าตรงๆไปหาหลอด LED เลย ซึ่งแน่นอนว่าสำหรับ V_s ที่มีค่า 12 V ย่อมมีค่า I_s เกินกว่าที่หลอด LED ทนได้สูงสุดอยู่แล้ว
ป.ล. I_s คือกระแสไฟที่แหล่งจ่ายไฟจ่ายได้สูงสุดครับ
ชุดนี้ลดค่าR ใช้ค่าเท่าไหร่ครับ ไฟเข้า12V คือต้องการให้หลอดLED 2ชุดนี้ ให้สว่างเพิ่มขึ้นอีกนิดนึง ซัก 5-10% ต้องลดค่าR ทั้ง2ชุดนี้ ควรใช้ค่าเท่าไหร่ครับ R1ค่า 2002 R2 ค่า 1001
วัดแรงดันตกคร่อมในวงจรครับ ตย. ชุด 2 หลอด แรงดันตกคร่อมหลอดแต่แต่หลอดและตกคร่อม R 2002 (20K)
กรแสที่ไหลผ่านหลอด Ib = แรงดันตกคร่อม R2002 / 20K = mA.
จะเพิ่มกระแสกี่ % ของกระแสไหลผ่านหลอด ก็คำนวณเอาครับ 10%ของ Ib=???
เมื่อได้ค่าคำนวณได้แล้ว มาหาค่า R ใหม่ R = แรงดันตกคร่อมหลอด LED ที่วัดไว้ หารค่ากระแสที่คำนวณได้ V/mA. ค่า R ที่ได้จะเป็นหนวย Kohms. ครับ เสร็จแล้วลองดูว่าสว่างพอไหม