เคยส่งพัสดุ EMS จากสุพรรณบุร๊ ไปลำพูน ใช้เวลา 8 วัน เสียค่าส่งเกือบร้อย ดีแต่โม้
ถ้าเป้นช่วงปีที่น้ำท่วมนะใช่ครับ ผมก็โดนไป10วัน
ของที่เสียส่วนมากจะเกิดจากการแพ็คของร้านค้านะครับ ผมเคยไปนั่งดูการทำงานที่ไปรษณีย์ตามที่ต่างๆ ส่วนใหญ่เลยเขาจะไม่โยนนะครับ แต่จะใช้วิธีลากลงจากรถขนส่ง เวลารถขนส่งเข้ามาเขาจะเปิดท้ายแล้วถอยมาเทียบลานลงของ พื้นรถกับลานจะเท่ากันแล้วเขาก็จะลากถุงมากองแล้วก็เช็คว่าไปรษณีย์ไหนมีของกี่ถุงครบไหมถ้าครบเขาก็จะลากเขาห้องแล้วนำมาคัดแยกว่าจะไปส่งที่ไหนบ้าง ทุกกล่องที่ลงทะเบียนจะถูกยิงบาร์โค๊ดเผื่อเอาไปให้คนรับของเซ็นต์ชื่อรับ ผมเองส่งของมาก็มากไม่ต่ำกว่า1พันกล่อง
ยังไม่เคยมีสินค้าเสียหายเลยครับ อีกอย่างครบครัวผมก็ทำงานไปรษณีย์กันทั้งบ้าน เลยรู่วิธีการส่งที่จะทำให้สินค้าเสียหายน้อยที่สุด คือ
1.ใช้กล่องที่ไปรษณีย์จัดจำหน่าย เวลาแพ็คสินค้าให้ใช้กล่องที่ใหญ่กว่าสินค้า
2.ห่อสินค้าด้วยแผ่นกันกระแทกและใส่กล่อง ถ้าตัวสินค้าหลวมมากให้หากระดาษหนังสือพิมพ์ยัดให้แน่นแล้วปิดกล่อง
3.เชื่อกที่มีมาให้ในกล่องไม่ต้องใช้มัดกล่องครับเพราะถ้ามีเชือกมัดเจ้าหน้าที่เขาชอบโยนครับให้ใช้เทปกาวปิดขอบกล่องให้แน่นหนาครับ แค่นี้สินค้าของท่านก็ปลอดภัยอีกระดับนึง
สาเหตุที่สินค้าแตกหักเสียหาย พ่อค้าบางท่านต้องการประหยัดค่ากล่องเลยใช้วิธีใช้กล่องสินค้าห่อด้วยกระดาษแล้วเขียนชื่อที่อยู่ส่งเลยประหยดค่ากล่องไป 1กล่อง 35บ. 100กล่องก็ 3500บ. ต่อเดือน ท่านลองสังเกตุดูว่ากล่องใส่สินค้ามันจะบางกว่ากล่องไปรษณีย์มาก บางท่านใช้กล่องเท่าตัวสินค้ายัดจนกล่องฉีกเวลาส่งคิดเอาเอง ผมเจอลูกค้าส่งs10มาซ่อม สายไฟACขาหัก พอร์ต 232 ยุบบี้ ฝาปิดแตก ผมมาเช็คดูเมนบอร์ดใหญ่เสียผมแจ้งลูกค้า เขาเลยบอกไม่ต้องซ่อม ยกซากเครื่องให้ช่างไปเลย เดี๋ยวจะหาว่าผมพูดเท็จ เลยขออนุญาติเอ่ยนาม ลูกค้าประจำ คุณ อดิศร จากบุรีรัมย์ ครับ ลูกค้าคนนี้คุยง่ายเข้าใจง่าย เลยคิดราคาพิเศษให้เสมอ