ออกตัวไว้ก่อนว่า ไม่ได้เก่งเรื่องเครื่องรับดาวเทียม
แต่ในเมื่อซื้อมาแล้ว ใช้แล้ว ก็ขอเอาประสบการณ์มาเขียนให้อ่านหน่อยละกัน เผื่อมีประโยชน์สำหรับมือใหม่แบบผม
ที่ไป ที่มาบ้านผมมี TV 2 เครื่อง โดย LCD TV ในห้องนอนต่อกับ Dreambox DM500S ผ่านทางช่อง Component ภาพก็คมชัดถูกใจ สมัยนั้นซื้อแพงด้วยตั้ง 4700 บาทแน่ะ (โดนคนขายฟันหรือเปล่าก็ไม่รู้) ส่วน CRT TV อีกห้องนึงต่อกับเครื่องรับของ True Life Freeview เติมเงินมือถือเดือนละ 300 บาท ใช้แบบนี้มาหลายปี แต่แล้วก็เกิดเบื่อเติมเงินมือถือ ต่อมา True ก็เลยมาเก็บเครื่องรับของเค้าไป แต่ไม่ถอดจานไปด้วย ผมก็เลยไปเอาเครื่องรับ DTV ตัวสีขาวๆมาจากบ้านนอก ขอยืมของแม่เอามาดูแก้ขัดไปก่อน
แต่ไม่นานหลังจากนั้น CRT TV ก็เสีย เปิดไม่ติดซะงั้น เลยจำเป็นต้องไปถอย TV เครื่องใหม่มาแทน เป็น LCD TV
เอาล่ะสิภาพจาก Composite ของ DTV กับจอ LCD รับไม่ได้จริงๆ ไม่ชัดเอาซะเลย ดูแล้วขัดตาจริงๆ
เลยเข้ามาลองค้นข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องรับในเวบดาวเทียม ก็พบว่า Dreambox ราคาถูกลงไปมาก เหลือเพียงไม่ถึงสองพันบาทเอง
และก็เห็นว่ามีเครื่องรับที่ดู HD ได้อีกเป็นจำนวนมากมายหลายรุ่น ราคาตั้งแต่ 2,000-8,000 บาท ซึ่งก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะไหนๆก็จะซื้อใหม่อยู่แล้วก็น่าจะเอาเป็น HD ไปเลย
อ่านเวบอยู่พักนึง เห็นมีคนเล่นเครื่องรับรุ่น Openbox S10 กันเยอะ ราคาก็ไม่แพง และเจ้าของบ้านเช่าก็แนะนำให้เล่นรุ่นนี้
ก็เลยสั่งซื้อกับพ่อค้าเจ้านึงในเวบเลยครับ 2,400 บาท ค่ามอเตอร์ไซค์มาส่งอีก 80 แต่ให้ Tip ไป รวมเป็น 100 บาท สิริราคารวมก็คือ 2500 บาทไทย
จริงๆแล้วมีพ่อค้าหลายเจ้ามาก ราคาก็ไม่หนีกันมาก ซื้อเครื่องเดียวก็ 2350-2400 ยังไม่เห็นมีเจ้าไหนซื้อเครื่องเดียว 2200 บาทหรือต่ำกว่านั้นเลย (อาจต้องต่อราคาเอามั้ง)
ที่เลือกเจ้านี้ก็เพราะเค้าโฆษณาว่าของเค้าเป็น Chip แท้ ซึ่งเห็นในเวบนอกเค้าบอกว่าถ้าเครื่องไหนเป็น Chip clone เมื่ออัพเกรดเฟิร์มแวร์แล้วจะใช้ได้แค่ 10 ครั้ง งั้นเราก็เอาของแท้ดีกว่า
สิ่งที่คาดหวังก่อนจะเข้าเรื่อง ขอบอกสิ่งที่คาดหวังสำหรับ Openbox S10 นี้ก่อนนะครับ
- ต่อ External HDD ได้ เพื่อตั้งเวลาอัดการ์ตูนไว้ให้เจ้าตัวเล็กดู เนื่องจากการ์ตูนมันชอบไปออกอากาศตอนดึกหรือไม่ก็ตอนเช้ามืด
- รับช่อง Hi-Def ได้
- ขยายเสียงโดยชุดโฮมที่รับ HDMI ได้ ไม่ต้องเดินสาย Coax/Optical เพิ่มเติม (แต่จริงๆแล้วมี Coax/Optic ก็ดีนะ)
- เล่นไฟล์หนัง Hi-Def จาก HDD ได้
- ดู Youtube และบันทึกลง HDD ได้
รูปลักษณ์ภายนอกแรกพบสบตา อืม กล่องก็ดูสวยดี แถมสาย HDMI ให้อีกเส้นนึง คาดว่าสายนี้ทุนก็น่าจะราวๆ 80 บาท เพราะฉะนั้นราคาตัวเครื่องคงอยู่ที่ 2320 บาท รวมกำไร 20% ดังนั้นต้นทุนที่พ่อค้ารับมาน่าจะอยู่ที่ราวๆ 1800-1900 บาท
ก็คงจะราวๆนั้น เพราะลองไปค้นดูจากเวบพวกขายส่ง ซื้อ 50 เครื่องรวมส่ง DHL แล้วเฉลี่ยยังออกมาราวๆ 1900 บาทเลย
ถ้าให้ส่งทางเรือและซื้อมากกว่านั้นก็อาจจะถูกกว่า ไม่รู้ว่าพวกเครื่องรับดาวเทียมนี่ต้องเสียภาษีนำเข้าเท่าไหร่
2400 บาท ได้เท่านี้แกะกล่องดูข้างใน ตัวเครื่องงานดูเนี้ยบดีเหมือนกันนะ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่รีโมทดูก๊องแก๊งแถมตัวใหญ่มาก อีกอย่างนึงคือ คู่มือการใช้งานไม่มี มีแต่แผ่นพับบอกวิธีการตั้งค่าอะไรซักอย่างนี่แหล่ะ
คู่มือการใช้งาน(ภาษาอังกฤษ) โหลดได้จากเวบนี้ http://bit.ly/oCDJuH
รีโมท กลุ่มตรงกลางดูยากเพราะสีกลืนกันด้านหน้าเครื่อง รุ่นนี้ดีกว่า DM500S หน่อยตรงที่มีจอแสดงผลด้วยว่ากำลังดูช่องอะไรอยู่ มีปุ่มกดต่างๆให้พอใช้แก้ขัดเวลาหารีโมทไม่เจอได้ (แต่รีโมทตัวนี้น่าจะหาง่าย เพราะใหญ่ซะขนาดนั้น) พูดถึงรีโมท ของ DM500S หารีโมทไม่เจอบ่อยมาก เพราะนอกจากจะเล็กแล้วยังทำเป็นสีเงินอีกต่างหาก มันกลืนไปกับเฟอร์นิเจอร์
ด้านหน้าเครื่องยังมีช่องใส่ Card และช่องอะไรก็ไม่รู้ที่อยู่ใต้ช่องใส่ Card นั้น ซึ่งไม่ได้สนใจอยู่แล้ว เพราะของเราใช้ผ่าน Net
หน้าเครื่อง เรียบๆดีด้านหลังเครื่อง จุดเชื่อมต่อต่างๆจัดตำแหน่งไม่ชิดกันเกินไปนัก ดีกว่า DM500S ที่อัดกันแน่นเอี๊ยด
Openbox S10 นี่ใช้แหล่งจ่ายไฟในตัว ไม่ต้องมีอะแด๊ปเตอร์ภายนอกให้วุ่นวายเหมือน DM500S แถม Openbox S10 นี่ยังมีสวิตช์สำหรับปิด-เปิดเครื่องด้วย
แต่จุดที่แตกต่างและน่าจะด้อยกว่า DM500S ก็คือ Openbox S10 นี่ไม่มีช่อง Optical audio ซึ่งน่าจะมี แม้ว่าจะไม่ได้ใช้ก็ตาม และช่อง Component Video ก็ไม่มี ซึ่งก็น่าจะใส่มาให้ด้วยเช่นกัน
ซึ่งตรงจุดนี้รุ่น Openbox S9 และ DM500S มีครบครันกว่ามาก
หลังเครื่องมีช่องต่อน้อยไปด้านหลังเครื่องนี่ยังมีช่องต่ออยู่ช่องนึงที่เขียนว่า 12V 50mA ซึ่งผมก็ยังไม่รู้ว่ามันเอาไว้ทำอะไร แต่น่าจะมีประโยชน์แหล่ะ ไม่งั้นคงไม่ใส่มาให้
การใช้งานหลังจากเสียบสายต่างๆครบแล้ว ก็ลองเปิดเครื่องดู เครื่องบูตไวมาก ใช้เวลาแป้บเดียวเองก็ปรากฏภาพออกจอ TV แล้ว แตกต่างจาก DM500S มากมาย เจ้านั้นบูตทีนึงไปชงกาแฟรอได้เลย
การเปลี่ยนช่องทำได้รวดเร็วพอควร กดแล้วนับ 1-3 ในใจภาพก็ปรากฏ เร็วพอๆกันกับ DM500s
ขนาดตัวเครื่องกำลังดีคุณภาพของภาพ สำหรับช่อง SD ความคมชัดก็อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ แต่สีสันรู้สึกแปลกตาไปจาก DM500S โดยที่ Openbox รู้สึกสีมันตุ่นๆ รายละเอียดของภาพในที่มืดก็แสดงออกมาไม่ดีเท่าไหร่ ภาพสว่างก็สว่างจ้าเกินไปขาดรายละเอียด ลักษณะเหมือนการไล่เฉดสีมีระดับต่ำแค่ไม่กี่บิท ดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเหมือน DM500S แต่อย่างไรก็ตามรวมๆก็ดีกว่า DTV ผ่าน Composite ล่ะ(วะ)
แต่หลังจากอัพเฟิร์มแวร์แล้ว รู้สึกว่าสีสันค่อยๆดีขึ้นมาตีตื้นกับ Dreambox แล้ว
คุณภาพของเสียง เสียงปกติ แต่ว่าของ True รู้สึกจะเสียงเบาไปหน่อย ของ DTV ดังลั่นเลย น่าจะไม่เกี่ยวกับตัวเครื่อง(มั้ง)
เข้าสู่ยุค Hi-Def 
ภาพ Hi-Def ใช้ได้ภาพของช่อง HD ชัดสมชื่อจริงๆ แม้ว่าจะยังไม่เท่ากับพวกแผ่น BD แต่ก็ถือว่าชัดแล้วแหล่ะ
มีข้อสังเกตอยู่อย่างนึงคือในตอนเปลี่ยนช่องจะมี OSD ปรากฏขึ้นมา ในระหว่างที่ OSD หายไปนั้นภาพและเสียงจะสะดุดอยู่ประมาณ 0.5 วินาที แล้วก็กลับมาใหม่
นั่งๆดูหนังไปสักพักนึงก็พบว่าที่ภาพและเสียงหายไปแป้บนึงนั้นได้ส่งผลอันยิ่งใหญ่ต่อการรับชม ก็คือเสียงกับภาพไม่ซิงค์กัน ภาพมาช้ากว่าเสียงประมาณ 200-300ms ดูหนังแล้วน่ารำคาญเป็นที่สุด เสียงปืนดังปังแล้ว แต่ในภาพยังไม่ได้ยิงออกไปเลย
เสียงแก้วแตกไปแล้ว แต่ภาพแก้วยังไม่ถึงพื้นเลย
อาการนี้เป็นทุกช่อง ซึ่งการแก้ไขที่พบก็คือ เมื่อเกิดอาการแบบนี้แล้ว ให้กดปุ่ม Menu เพื่อเข้าไปใน Menu แล้วกดออกมา อาการนี้ก็จะหายไป แต่พอเปลี่ยนช่องใหม่ก็ต้องทำแบบนี้อีก
หลังจากอัพเฟิร์มแวร์แล้ว อาการภาพและเสียงไม่ตรงกันจะไม่เกิดขึ้นแล้ว การแสดงรายการช่องกรณีของ DM500S เวลากด OK เพื่อจะดูรายการช่องสำหรับเลือกเพื่อที่จะเปลี่ยนช่องนั้น จะแสดง EPG อย่างย่อให้เห็นด้วย แต่ของ Openbox จะแสดงแต่ชื่อช่องเท่านั้น
การเปลี่ยนช่องยังคงต้องปรับตัวอีกหน่อย เพราะว่าแตกต่างจาก DM500S พอสมควร เพราะ Openbox ไม่สามารถข้ามช่องไปทีละหน้าแบบ DM500S ได้ที่สามารถกดปุ่มซ้ายหรือขวาเพื่อข้ามไปทีละหน้าได้ แต่ Openbox ต้องใช้วิธีไล่ไปทีละช่อง หรือไม่ก็กดหมายเลขช่องตรงๆไปเลย
ข้อสังเกตต่อไปที่พบก็คือ EPG บางครั้งมาไม่ครบ บางทีแสดงแค่รายการสองรายการเอง นานกว่านั้นจะแสดง No name ซึ่งไม่เหมือน DM500S จะสามารถแสดงได้ล่วงหน้าหลายๆวันเลยทีเดียว ทำให้การที่จะตั้งเวลาบันทึกหรือตั้งเวลาเปลี่ยนช่องทำได้ไม่สะดวกนัก
EPG ไม่ครบหลังจากอัพเฟิร์มแวร์แล้ว สามารถเลือกช่องโดยเลื่อนเป็นหน้าๆได้เลย และ EPG ก็มาครบแล้ว
เมนูการตั้งค่าเมนูของ Openbox นี่ค่อนข้างน้อย มีแค่ไม่กี่เมนูเอง ลูกเล่นไม่ค่อยมีอะไร ไม่เหมือน DM500S ซึ่งมีของเล่นมากมาย
เพราะ Openbox เป็นระบบแบบปิด (น่าจะใช้ชื่อ Closebox นะ) ไม่เหมือนกับ DM500s ที่เป็นแบบเปิดสามารถพัฒนาเองได้
การเชื่อมต่อ USB HDD Openbox สามารถใช้กับ External USB HDD แบบที่ใช้ NTFS Partition ได้ ทำให้สะดวกในการถอดไปต่อกับ PC
การบันทึกรายการที่กำลังดูก็ทำได้สะดวกด้วยการกดปุ่มบันทึกบนรีโมทได้เลย แต่ว่าเวลาจะเล่นนี่ค่อนข้างยุ่งยากหน่อย เพราะต้องเข้าไปในเมนูสลับซับซ้อนพอสมควรกว่าจะ Play ได้
อีกอย่างก็คือไม่มีให้เลือกโหมดในการบันทึกว่าเป็น SP, EP หรืออื่นๆ ซึ่งไม่เหมือนกับเครื่อง DVR ทั่วไป
จุดเด่นที่น่าสนใจของ Openbox ก็คือในระหว่างการบันทึกสามารถเปลี่ยนช่องไปดูช่องอื่นๆได้ด้วย
ใช้ HDD แบบ NTFS ได้ด้วย การตั้งเวลาบันทึกสามารถทำได้ด้วยการเลือกจากหน้า EPG ได้โดยตรง แต่จุดที่น่าสังเกตก็คือเมื่อเลือกแล้วไม่มีเครื่องหมายแสดงไว้ทีหน้า EPG ว่าโปรแกรมนั้นๆได้ผ่านการเลือกไว้แล้ว ซึ่งแตกต่างจาก DM500S ที่จะมีสัญลักษณ์รูปนาฬิกาปรากฏให้รู้ว่ารายการนั้นๆมีการตั้งเวลาไว้แล้ว
หลังจากจบรายการบันทึกแล้ว เครื่องก็จะปิดไปเอง แต่ปัญหาที่พบก็คือ USB HDD ไม่ดับไปด้วย ทำให้ HDD ต้องทำงานอยู่ตลอดเวลา ก็ดูแล้วไม่น่าจะดีเท่าไหร่
จริงๆแล้วเมื่อปิดเครื่องไปควรตัดไฟ USB HDD ไปด้วย พอใกล้ๆจะถึงเวลาโปรแกรมใหม่ก็ให้เปิดเครื่องขึ้นมาก่อนซัก 1-2 นาที น่าจะดีกว่านี้นะ
การเล่นไฟล์ Multimediaเฟิร์มแวร์เดิมๆคู่ตัว (22-5-2011) สามารถเล่นได้เฉพาะไฟล์เพลงกับไฟล์ภาพนิ่ง แต่พออัพเป็นเฟิร์มแวร์ใหม่ๆ ตั้งแต่เดือน 6-2011 ขึ้นไป จะทำให้เครื่องสามารถเล่นไฟล์ภาพยนต์ได้หลายประเภท ทั้ง MPEG1,2,4
เอาล่ะ สำหรับมินิรีวิวก็ขอสรุปไว้เพียงเท่านี้ก่อน ขอไปลองใช้สักพักก่อนถ้ามีอะไรเพิ่มเติมจะมารายงานผลให้ทราบอีกครั้ง
จุดเด่นของ Openbox S10- ราคาไม่แพงมากนัก 2400 บาท (อีกหน่อยจะเหลือเครื่องละ 1800 บาท)
- รับสัญญาณ HD ได้ ปล่อยภาพระดับ 1080i
- ตัวเครื่องกระทัดรัดสวยงาม ความร้อนไม่สูง
- บูตเครื่องไวมาก
- เปลี่ยนช่องได้รวดเร็ว
- เชื่อมต่อ HDD ได้ ใช้ NTFS ได้
- มีฟังก์ชั่น Time shift ย้อนเวลารายการขณะนั้นได้ทันที
- ตั้งเวลาบันทึกได้ และเล่นกลับได้
- ดูอีกช่อง บันทึกอีกช่องได้
- เล่นไฟล์ Media ได้หลากหลายสกุล (เฟิร์มแวร์ตัวใหม่)
- อัพเกรด Firmware ง่ายๆผ่าน USB Port หรือผ่าน LAN
- ดู IPM ได้เลย (เฟิร์มแวร์ล่าสุด)
ข้อสังเกต- ภาพยังไม่ค่อยดีเท่าที่ควร สีสันเพี้ยนๆ เฟิร์มแวร์ใหม่ทำให้ภาพดีขึ้นมาก
- ไม่มีช่องต่อ Component หรือ Scart
- ไม่มีช่องต่อ Digital out
- ปุ่มกดหน้าเครื่องแข็ง ไม่ค่อยตอบสนอง
- รีโมทใหญ่เทอะทะ งานไม่ปราณีตเท่าไหร่
- ปุ่มที่รีโมทหลายปุ่มดูยากเพราะพื้นขาว ตัวอักษรยังขาวอีก
- แสดงผล EPG ไม่ครบบางครั้ง เฟิร์มแวร์ใหม่แก้ไขแล้ว
- ตั้งเวลาแล้วไม่มีสัญลักษณ์แจ้งที่ EPG ทำให้ไม่รู้ว่าตั้งเวลาไปหรือยัง
- บันทึกแล้วเป็นนามสกุล .DVR อย่างเดียว ทำให้เวลาไปเล่นเครื่องอื่นต้องเอาไปแปลงอีก เฟิร์มแวร์ใหม่เป็น .TS หรือ .PS แล้ว ไม่ต้องแปลง
- เวลาปิดเครื่องเป็น Standby แต่ HDD ไม่ดับไปด้วย
- เล่นไฟล์ Video ไม่ได้ เล่นได้เฉพาะไฟล์ภาพกับไฟล์เพลง เฟิร์มแวร์ใหม่เล่นไฟล์ Video ได้แล้ว
- ดู Youtube ไม่ได้
- เสียงกับภาพไม่ตรงกัน หลังจากเปลี่ยนช่อง หรือกด Volume +,- (หลังจาก OSD หายไป) เฟิร์มแวร์ใหม่แก้ไขแล้ว
- HDMI ไม่มี CEC
ข้อมูลที่ควรทราบคู่มือภาษาอังกฤษ
http://bit.ly/oCDJuHเฟิร์มแวร์ โรงงาน A
http://bit.ly/nwlc2Eเฟิร์มแวร์ โรงงาน B
http://bit.ly/pWHvujโปรแกรม Upgrade ผ่าน RS232
http://bit.ly/pxAxkOโปรแกรมจัดการไฟล์ผ่าน LAN
http://bit.ly/ouPZCgโปรแกรมเปลี่ยน Logo
http://bit.ly/pEhadSโปรแกรมจัดเรียงช่อง
http://bit.ly/qQBHzomini review openbox s10 hd pvr
ผู้เขียน
