[22 กันยายน] นาซ่าจับตาดาวเทียมโหม่งโลก เผยไม่อันตราย
หลังจากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือนาซ่า ได้ปล่อยข่าวดาวเทียมที่หมดอายุจะร่วงลงบนพื้นโลกในวันที่ 23 กันยายนนี้ ซ้ำยังไม่รู้ตำแหน่งการตกที่ชัดเจน ทำให้ผู้คนในหลายพื้นที่ หวั่นเกรงว่าดาวเทียมดวงนี้จะตกลงมาสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและสิ่งก่อสร้างบนพื้นโลก ล่าสุด นาซ่าได้ออกมาชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมว่า ดาวเทียมดวงนี้มีโอกาสสร้างความเสียหายบนโลกน้อยมาก แม้จะหล่นสู่พื้นด้วยความเร็วสูงก็ตาม
โดยผู้เชี่ยวชาญจากนาซ่า ได้เปิดเผยว่า ดาวเทียมยูเออาร์เอส ซึ่งเป็นดาวเทียมที่ปลดประจำการดวงนี้ มีขนาดเท่ารถบัส และน้ำหนัก 6 ตัน ซึ่งจากการคำนวณของผู้เชี่ยวชาญ คาดว่า มันจะตกลงสู่พื้นโลกในวันที่ 23 กันยายนนี้ หรือคลาดเคลื่อนไม่เกิน 1 วัน เพราะตอนนี้วงโคจรของมันอยู่เหนือพื้นโลกเพียง 200 กิโลเมตรเท่านั้น ส่วนจุดตกของมันนั้นเป็นไปได้ว่าจะอยู่ระหว่างเส้นรุ้งที่ 57 องศาเหนือ และเส้นรุ้งที่ 57 องศาใต้ ในรัศมี 12,000 กิโลเมตร ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นผืนดินที่มีผู้คนอาศัยอยู่มากมาย แต่เวลาที่แน่นอนที่มันจะตกนั้น จะไม่มีทางรู้ได้ จนกว่าจะถึงช่วง 20 นาทีสุดท้ายก่อนมันตกกระทบพื้นดิน
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น โอกาสที่มันจะตกกระทบผู้คนและสิ่งก่อสร้างบนโลกจนเสียหายนั้นมีน้อยมาก แค่ประมาณ 1 ใน 3,200 เท่านั้น เพราะแม้ว่ามันจะมีขนาดเท่ารถบัสและหนักกว่า 6 ตัน และตกลงสู่พื้นโลกด้วยความเร็วสูง แต่ชิ้นส่วนหลายชิ้นก็จะถูกเผาไหม้จากการเสียดสีกับชั้นบรรยากาศ และแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยก่อนตกลงสู่พื้นโลก โดยทางนาซ่าคาดว่าจะมีชิ้นส่วนดาวเทียมที่ตกลงสู่พื้นโลกประมาณ 26 ชิ้นเท่านั้น และชิ้นส่วนทั้งหมดจะกระจายไปตกในรัศมี 800 กิโลเมตรบนพื้นโลก
สำหรับดาวเทียมยูเออาร์เอส เป็นดาวเทียมที่ใหญ่ที่สุดของนาซ่า ถูกปล่อยขึ้นสู่อวกาศเมื่อปี 2534 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการตรวจวัดชั้นบรรยากาศ ลม และอุณหภูมิบนชั้นบรรยากาศ แต่ปลดประจำการไปตั้งแต่ปี 2548 แล้ว และดาวเทียมดวงนี้ก็จะเป็นดาวเทียมที่หล่นลงสู่พื้นโลกในรอบ 32 ปี หลังจากก่อนหน้านี้ ยานสกายแล็ปได้ตกลงสู่พื้นโลกไปแล้วเมื่อปี 2522 และในตอนนั้นก็ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด