"ทีโอที"โดดลุย"อินเทอร์เน็ตทีวี"ต่อยอดธุรกิจบรอดแบนด์
"ทีโอที" ชิมลางเปิดบริการอินเทอร์เน็ตทีวี "IPTV" ต.ค.นี้ จับมือเจ้าของคอนเทนต์สร้างมูลค่าเพิ่ม สู้ศึกตลาดบรอดแบนด์ ตั้งเป้าลูกค้า 1.4 ล้านพอร์ตสิ้นปีนี้
นายมรกต เธียรมนตรี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ.ทีโอที เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ในเดือนตุลาคมนี้ ทีโอทีจะเปิดตัวบริการอินเทอร์เน็ตทีวี หรือ IPTV ให้เป็นบริการเสริมดึงดูดลูกค้าอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ของบริษัท โดยจะเปิดเป็นบริการทางเลือกให้ลูกค้าที่ต้องการความคุ้มค่าในการใช้งาน เนื่องจากเทรนด์ของการชมทีวีแบบ HD กำลังมาแรง แม้แต่แนวโน้มของสื่อโฆษณาก็เทงบฯให้กับสื่อกลุ่มนี้สูงขึ้น
ขณะที่ โครงข่ายและเทคโนโลยีในปัจจุบันมีความพร้อมจะใช้งาน IPTV แล้ว จึงได้จับมือร่วมกับพันธมิตรที่เป็นเจ้าของคอนเทนต์มาร่วมกันเปิดให้บริการ
"เรา ตั้งใจจะไม่ให้เป็นภาระกับลูกค้าจนเกินไป จึงคาดว่าจะไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้า หรือค่ากล่องรับสัญญาณ IPTV เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ส่วนค่าบริการรายเดือนสำหรับช่องทั่วไป เมื่อรวมค่าใช้อินเทอร์เน็ต ADSL รายเดือนแล้วจะไม่เกิน 1,000 บาท เพราะเชื่อว่าจะเป็นราคาที่ลูกค้ายอมรับในความคุ้มค่าได้ แต่ถ้าเป็นช่องคอนเทนต์ระดับพรีเมี่ยม ก็จะมีการเปิดตัวใน พ.ย.นี้ ซึ่งราคาอาจจะสูงขึ้นนิดหน่อย เพราะเน้นเจาะตลาดระดับบน"
สำหรับการ แข่งขันในตลาดบรอดแบนด์ปัจจุบันมีการแข่งขันกันสูง แต่เน้นแข่งกันที่คุณภาพ เพิ่มแบนด์วิธและบริการใหม่ ๆ ไม่ได้แข่งกันลดราคา ทำให้ราคาบรอดแบนด์ในตลาดยืนอยู่ที่ 599 บาท/เดือน ซึ่งทำให้รายได้ของทีโอทีใกล้เคียงกับที่ประมาณการไว้ ด้วยจำนวนลูกค้า 1.2 ล้านพอร์ต ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้สิ้นปี 1.4 ล้านพอร์ต
"เป้า 1.4 ล้านพอร์ต เป็นเป้าที่ทริสตั้งไว้ เป็นเป้าของบริษัทและการประเมินผลงานของผู้บริหารด้วย แต่เนื่องจากปัญหาอุทกภัยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมานี้เริ่มส่งผลกระทบในการขยายฐานลูกค้า รวมถึงการเข้าไปติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มคุณภาพโครงข่าย MSAN ที่จะติดตั้งเพิ่ม 5.77 แสนพอร์ต จากเดิมที่จะต้องเสร็จในเดือนนี้ต้องล่าช้าออกไป"
ตอนนี้ทีโอทีจึงต้องมุ่งเน้นที่การรักษาฐานลูกค้าเก่าเป็น หลัก ซึ่งเชื่อว่าบริการ IPTV น่าจะช่วยดึงดูดลูกค้ารายใหม่และรายเก่าได้มาก แม้ในตลาดประเภทกล่องรับสัญญาณทีวีประเภทต่าง ๆ จะมีการแข่งขันกันสูง แต่พันธมิตรที่เข้ามาร่วมทำช่องกับทีโอทีน่าจะช่วยให้ทีโอทีและพันธมิตร บรรลุวัตถุประสงค์ของตัวเองได้
ขณะที่ทีโอทีก็ยังสามารถตอบสนอง ภารกิจภาครัฐได้ โดยการให้พื้นที่หน่วยงานรัฐทำช่องเพื่อสื่อสารกับประชาชน หรือข้าราชการในสังกัดของตัวเองได้
ด้านนางอโณทัย คล้ามไพบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงาน กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ บมจ.กสท โทรคมนาคม เปิดเผยว่า ในไตรมาสแรกปี 2555 กสทฯจะเปิดตัว CAT Channel เป็นทีวีดิจิทัลในรูปแบบ ของ IPTV โดยในช่วงแรกจะเปิดให้บริการ 11 ช่อง ก่อนขยายเป็น 100 ช่องในอนาคต
"กสทฯมีจุดแข็งจากการเป็นผู้ให้ บริการโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ฉะนั้นคุณภาพของ IPTV ของเราจะเหนือกว่าคนอื่นทั้งในด้านคุณภาพและความเสถียร ซึ่งขณะนี้ได้ติดตั้งระบบ ไปแล้วกว่า 50% โดยจะใช้เงินลงทุน ทั้งหมดราว 20 ล้านบาท"
สำหรับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้แก่ลูกค้ากลุ่มองค์กรที่ต้อง การมีช่องทีวีเป็นของตนเอง แต่ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี บริการของ กสทฯจะเข้าไปช่วยสนับสนุนระบบทั้งหมด ลูกค้าเพียงแค่ผลิตคอนเทนต์เท่านั้น คาดว่าลูกค้ากลุ่มแรก ๆ จะเป็นองค์กรภาครัฐที่ต้องการสื่อสารข้อมูลโดยตรงกับประชาชน
"ทิศทาง 3G 4G เริ่มชัดเจนหลังมี กสทช. ขณะที่การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของไทยยังมีเพียง 20% สื่อดิจิทัลหลังจากนี้จะเติบโตได้อีกเป็น 10-20% และจะกระทบกับสื่อทุกประเภท กสทฯจึงต้องปรับตัวให้ทัน"
เครดิตจาก
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1317911966&grpid=&catid=06&subcatid=