"ดาวเทียม - เคเบิล" ต้องนำทีวีดิจิตอลไปไว้ที่ช่อง 1-36
ศาลปกครองยกคำขอคุ้มครองชั่วคราว ส่งผลให้ "ทีวีดาวเทียม-เคเบิล" ต้องนำช่องทีวีดิตอลไปจัดเรียงไว้ที่ช่องรายการที่ 1-36 ตามประกาศ กสทช. หากไม่ดำเนินการมีโทษปรับวันละ 2 หมื่น - 5 ล้าน หรือพักใบอนุญาตประกอบกิจการ
วันนี้ (2 ธ.ค.) เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ศาลปกครองไดัมีคำสั่งยกคำขอกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาของบริษัท บิ๊กโฟร์ แชทเทลไลท์ กรุ๊ป จำกัดกับพวกรวม 4 คน บริษัททรู วิชั่นส์ กรุ๊ป บริษัท วิชั่นส์ เคเบิ้ลทีวี บริษัททูโฟร์ยู สเตชั่น จำกัด บริษัทไทยนิวส์เน็ตเวิร์ค (ทีเอ็นเอ็น ) จำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบกิจการทีวีดาวเทียม และเคเบิลทีวี ที่ขอให้ศาลสั่งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ระงับการบังคับใช้ประกาศกสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์ การจัดลำดับบริการโทรทัศน์ 2558 ลงวันที่ 23 ก.ย. 58 ที่กำหนดให้ผู้ประกอบการทีวีดาวเทียม และเคเบิ้ลทีวี จะต้องจัดให้มีรายการโทรทัศน์ ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป (ช่องทีวีดิจิตอล ) ไว้ที่ช่องรายการที่ 1-36 ตั้งแต่วันนี้ ( 2 ธ.ค.) ไว้ก่อน โดยศาลมีคำสั่งรับคำฟ้องเฉพาะในประเด็นที่กลุ่มผู้ประกอบกิจการทีวีดาวเทียม และเคเบิ้ลทีวี ขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาเพิกถอนประกาศฉบับดังกล่าว ที่ผู้ประกอบกิจการทีวีดาวเทียม มองว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายไว้พิจารณาเท่านั้น ซึ่งศาลได้มีการแจ้งคำสั่งดังกล่าวไปยังคู่กรณีทราบแล้ว
อย่างไรก็ตามเมื่อศาลไม่มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา ส่งผลให้ผู้ประกอบการทีวีดาวเทียม และเคเบิลทีวีจะต้องจัดให้มีรายการโทรทัศน์ ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป (ช่องทีวีดิจิตอล ) ไว้ที่ช่องรายการที่ 1-36 ตามประกาศ กสทช. หาก บริษัทใดไม่ดำเนินการก็จะมีโทษปรับทางปกครอง ขั้นต่ำวันละ 2 หมื่นบาท - 5 ล้านบาท หรืออาจถูกพิจารณาพักใช้ใบอนุญาตประกอบกิจการได้ ส่วนช่องรายการที่ 37-60 เป็นช่องที่ผู้ประกอบการเลือกนำรายการใดมานำเสนอก็ได้ ทั้งนี้ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง ผู้ประกอบการทีวีดาวเทียม และเคเบิ้ลทีวี สามารถยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองกลางต่อศาลปกครองสูงสุดได้ภายใน 30 วัน
ที่มา :
http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000133445